- @TOM NEWS
- Jul 2021
เกรซ นวรัตน์ เปิดใจกับสถานะการเป็นผู้ชายข้ามเพศ
By : Ruta
หลังจากสร้างความฮือฮาไปทั่วโลกโซเชียลในหลายปีที่ผ่านมา กับการใส่ชุดนักศึกษาชายในงานรับปริญญาของ “เกรซ – นวรัตน์ เตชะรัตนประเสริฐ” อดีตนักแสดงเด็กชื่อดังจากภาพยนตร์ “ข้าวเหนียหมูปิ้ง” และการเป็นทายาทคนดังของค่ายสหมงคลฟิล์ม นี่เป็นอีกครั้งที่เกรซได้พูดเปิดใจถึงเส้นทางการก้าวข้ามเพศของตัวเขาเองในงานเปิดบริการ “Pride Clinic” ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งเกรซเป็นหนึ่งในแขกรับเชิญเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในฐานะบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ
“หลังจากที่เกรซได้ Come Out เปิดตัวว่าเป็นแบบนี้ชัดเจน หลังจากรับปริญญา ทุกอย่างก็ชัดเจน แต่ว่าเส้นทางระหว่างนั้นค่อนข้างลำบากนิดนึงในการใช้ชีวิต บางทีเราก็ถูกไล่ออกจากห้องน้ำบ้าง เพราะเราก็สับสนว่าเราอยู่ในขั้นตอนไหน และคนภายนอกมองเรายังไง แต่หลังจากที่เราได้ยอมรับตัวเอง และพูดออกมาจริงๆ ได้บอกคนอื่น เกรซว่าเราใช้ชีวิตง่ายขึ้นมาก”
นอกจากนี้ เกรซยังได้พูดถึงการเฉลิมฉลองในความหลากหลายทางเพศประจำเดือนมิถุนายนหรือ Pride Month ว่าไม่จำเป็นต้องเฉลิมฉลองให้ความสำคัญกันแค่ในเดือนเดียว “เกรซดีใจที่ปีนี้ได้เห็นอะไรหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปมากขึ้น แต่ที่สุดแล้ว ในหนึ่งปีก็ยังเหลืออีกหลายๆ เดือน อีกหลายๆ วัน เกรซก็กลัวว่าหลังจาก Pride Month แล้ว ความสำคัญของคนหลากหลายทางเพศจะหลายไปจากสื่อ ในวันที่เราต้องการความช่วยเหลือในเรื่องกฎหมายหรือสิ่งอื่นใด จากคนอื่นๆ ทั่วไป เกรซก็อยากให้ทุกคนอย่าลืมพวกเราด้วย เพราะเกรซเองก็อยากจะจดทะเบียนสมรสเหมือนพี่รัศมีแข แต่ในเรื่องกฎหมายในบ้านเรา ต่อให้เกรซไปถึงที่สุดในการเดินทางของเกรซแล้ว เกรซก็ยังเป็นนางสาวอยู่ดี ก็อยากจะฝากว่า หลังจาก Pride Month ก็อย่าลืมเราด้วยนะครับ”
หลังจากสร้างความฮือฮาไปทั่วโลกโซเชียลในหลายปีที่ผ่านมา กับการใส่ชุดนักศึกษาชายในงานรับปริญญาของ “เกรซ – นวรัตน์ เตชะรัตนประเสริฐ” อดีตนักแสดงเด็กชื่อดังจากภาพยนตร์ “ข้าวเหนียหมูปิ้ง” และการเป็นทายาทคนดังของค่ายสหมงคลฟิล์ม นี่เป็นอีกครั้งที่เกรซได้พูดเปิดใจถึงเส้นทางการก้าวข้ามเพศของตัวเขาเองในงานเปิดบริการ “Pride Clinic” ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งเกรซเป็นหนึ่งในแขกรับเชิญเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในฐานะบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ
“หลังจากที่เกรซได้ Come Out เปิดตัวว่าเป็นแบบนี้ชัดเจน หลังจากรับปริญญา ทุกอย่างก็ชัดเจน แต่ว่าเส้นทางระหว่างนั้นค่อนข้างลำบากนิดนึงในการใช้ชีวิต บางทีเราก็ถูกไล่ออกจากห้องน้ำบ้าง เพราะเราก็สับสนว่าเราอยู่ในขั้นตอนไหน และคนภายนอกมองเรายังไง แต่หลังจากที่เราได้ยอมรับตัวเอง และพูดออกมาจริงๆ ได้บอกคนอื่น เกรซว่าเราใช้ชีวิตง่ายขึ้นมาก”
นอกจากนี้ เกรซยังได้พูดถึงการเฉลิมฉลองในความหลากหลายทางเพศประจำเดือนมิถุนายนหรือ Pride Month ว่าไม่จำเป็นต้องเฉลิมฉลองให้ความสำคัญกันแค่ในเดือนเดียว “เกรซดีใจที่ปีนี้ได้เห็นอะไรหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปมากขึ้น แต่ที่สุดแล้ว ในหนึ่งปีก็ยังเหลืออีกหลายๆ เดือน อีกหลายๆ วัน เกรซก็กลัวว่าหลังจาก Pride Month แล้ว ความสำคัญของคนหลากหลายทางเพศจะหลายไปจากสื่อ ในวันที่เราต้องการความช่วยเหลือในเรื่องกฎหมายหรือสิ่งอื่นใด จากคนอื่นๆ ทั่วไป เกรซก็อยากให้ทุกคนอย่าลืมพวกเราด้วย เพราะเกรซเองก็อยากจะจดทะเบียนสมรสเหมือนพี่รัศมีแข แต่ในเรื่องกฎหมายในบ้านเรา ต่อให้เกรซไปถึงที่สุดในการเดินทางของเกรซแล้ว เกรซก็ยังเป็นนางสาวอยู่ดี ก็อยากจะฝากว่า หลังจาก Pride Month ก็อย่าลืมเราด้วยนะครับ”