- @TOM NEWS
- Sep 2016
จีน กษิดิศ สำเนียง
มีความคอนเซปมากสำหรับคอลัมน์ Talkative ของเราในฉบับนี้ นอกจากจะได้ชื่อ Issue แบบไฮ ๆ ว่า Over The Top แล้ว เจ้าของเรื่องในวันนี้ก็ Over ตามชื่อ Issue ไปติด ๆ แต่ถ้าถามว่าเธอท็อปในด้านไหน คงตอบแบบสวย ๆ ได้เลยว่า เรื่องการร้องเพลง และสไตล์การแต่งตัวที่ล้ำแฟชั่นน่ะสิ! ไม่ว่าจะเสื้อผ้า หน้าผม ผลงานเพลง จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก พี่จีน - กษิดิศ สำเนียง นักร้องมากความสามารถอีกคนหนึ่งที่เพิ่งจะมีผลงานเพลงเพราะ ๆ ประกอบซีรี่ส์สนุกแซ่บอย่างไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ ออกมาให้ได้ฟังกัน แต่วันนี้เราพาเธอมาสนุกกับอีกบทบาทหนึ่ง คือการถ่ายภาพประกอบคอลัมน์ โดยเสื้อผ้าที่ใช้ในการถ่ายภาพครั้งนี้เป็นผลงานของนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชาศิลปะการออกแบบพัสตราภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยเธอเป็นคนเลือกชุดเก๋ ๆ มาทั้งสิ้น 3แบบ 3 สไตล์ รับรองได้เลยว่ามัน Over The Top ม๊ากมากค่ะ!! และเมื่อคนพร้อม ชุดพร้อม สถานที่ก็พร้อม บรรยากาศที่ TomActz Studio ยังสนุกสนานเหมือนเคย พี่จีนเปลี่ยนชุด เปลี่ยนท่าโพสแบบชนิดที่ว่าไม่ต้องคอยกำกับกันให้มากความ เราได้รูปสวย ๆ ออกมาหลายรูป แถมยังมีบทสัมภาษณ์แบบคุยกันหนักมาก ตามสไตล์ Talkative มาฝากเพื่อน ๆ กันด้วย อยากรู้ว่าจะว้าวแค่ไหน อ่านตัวอย่างเรียกน้ำย่อยแบบกรุบกริบกันสักหน่อยดีกว่า
Music Lover
ด้วยรัก...ในเสียงดนตรี
“ถ้าถามว่าเริ่มชอบเสียงเพลงเสียงดนตรีตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็ตั้งแต่ตอนเด็กๆ แล้วล่ะค่ะ คือพอเริ่มรู้ความ เริ่มโต ก็สังเกตตัวเองว่า เวลาฟังเพลงแล้วก็จะมีความสุข แล้วคุณแม่ก็ชอบไปร้องเพลงตามงานต่างๆ ที่บ้านนอก ก็จะเป็นพวกงานแต่งงานเสียเป็นส่วนใหญ่ เราก็จะชอบตามนางไปดูไปฟังทุกครั้ง ไปฟังแม่ตัวเองร้องเพลง แล้วก็รู้สึกมีความสุขมาก ก็เริ่มคิดได้ว่า เออ การที่เราได้ร้องเพลงนี่มันเป็นความสุขที่ใกล้ตัวเนอะ ก็คงจะเริ่มฝังใจตั้งแต่ตอนนั้นว่า วันนึงฉันก็อยากจะเป็นนักร้องเหมือนแม่” จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่หล่อหลอมให้เริ่มหลงใหลในเสียงดนตรี เมื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ จีนก็เลยเลือกทำงานพิเศษที่ร้านขายเทปและซีดีเพลงชื่อดังอย่าง Tower Records …
I am What I am
ลุคใหม่กับตัวตนเดิม
ต้องยอมรับว่า จีน กษิดิศ กลายมาเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ก็จากอัลบั้ม Blonde ที่เลือก,ทำงานเพลงในสไตล์อิเล็กทรอนิกส์ป๊อป และมาพร้อมลุคใหม่ที่สร้างความฮือฮาไปทั่วทั้งวงการเพลงและวงการแฟชั่น “จนมาถึงอัลบั้ม Blonde ที่เรียกว่าเป็นยุคบลอนด์เนี่ย ก็มาถึงจุดที่ว่า ฉันทดลองอะไรมาพอแล้ว ก็อยากจะเป็นสาวป๊อป ก็เลยจัดเต็ม ใส่ส้นสูง ใส่วิกผมบลอนด์ กลายเป็นสาวปาร์ตี้…
Music Lover
ด้วยรัก...ในเสียงดนตรี
“ถ้าถามว่าเริ่มชอบเสียงเพลงเสียงดนตรีตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็ตั้งแต่ตอนเด็กๆ แล้วล่ะค่ะ คือพอเริ่มรู้ความ เริ่มโต ก็สังเกตตัวเองว่า เวลาฟังเพลงแล้วก็จะมีความสุข แล้วคุณแม่ก็ชอบไปร้องเพลงตามงานต่างๆ ที่บ้านนอก ก็จะเป็นพวกงานแต่งงานเสียเป็นส่วนใหญ่ เราก็จะชอบตามนางไปดูไปฟังทุกครั้ง ไปฟังแม่ตัวเองร้องเพลง แล้วก็รู้สึกมีความสุขมาก ก็เริ่มคิดได้ว่า เออ การที่เราได้ร้องเพลงนี่มันเป็นความสุขที่ใกล้ตัวเนอะ ก็คงจะเริ่มฝังใจตั้งแต่ตอนนั้นว่า วันนึงฉันก็อยากจะเป็นนักร้องเหมือนแม่” จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่หล่อหลอมให้เริ่มหลงใหลในเสียงดนตรี เมื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ จีนก็เลยเลือกทำงานพิเศษที่ร้านขายเทปและซีดีเพลงชื่อดังอย่าง Tower Records …
I am What I am
ลุคใหม่กับตัวตนเดิม
ต้องยอมรับว่า จีน กษิดิศ กลายมาเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ก็จากอัลบั้ม Blonde ที่เลือก,ทำงานเพลงในสไตล์อิเล็กทรอนิกส์ป๊อป และมาพร้อมลุคใหม่ที่สร้างความฮือฮาไปทั่วทั้งวงการเพลงและวงการแฟชั่น “จนมาถึงอัลบั้ม Blonde ที่เรียกว่าเป็นยุคบลอนด์เนี่ย ก็มาถึงจุดที่ว่า ฉันทดลองอะไรมาพอแล้ว ก็อยากจะเป็นสาวป๊อป ก็เลยจัดเต็ม ใส่ส้นสูง ใส่วิกผมบลอนด์ กลายเป็นสาวปาร์ตี้…
Homophobia
กระแสโฮโมโฟเบียที่เผชิญ
ทว่า การปรับเปลี่ยนลุคมาแต่งหญิงในครั้งนี้ ใช่ว่าจะมีแต่ฟีดแบ็กดีๆ ฟีดแบ็กแย่ๆ ก็มี “แฟนคลับเก่าๆ ก็มีนะ ที่มาพูดประมาณว่า อะไรเนี่ย มาแต่งหญิงอะไร เมื่อก่อนยังโคตรเท่อยู่เลย ยังเป็นแบบ David Bowie อยู่เลย แล้วผู้ใหญ่ก็มีเยอะ ตอนแรกเราฟังก็อึ้งๆ นะ ก็ไม่คิดนะว่า คนที่เราเคารพนับถือจะเป็นแบบนี้…
นอกจากประเด็นที่ยกมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านข้างต้น ยังมีอีกหลายเรื่องราวของพี่จีนทั้งเรื่องความรัก การอยู่รอดของศิลปินยุคใหม่ บทบาทใหม่ ๆ ในด้านของการแสดงและเรื่องโฮโมโฟเบีย ติดตามบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ใน @tom act ฉบับ 3/16 ในรูปแบบของ E- Magazine ห้ามพลาดเลยนะคะ