By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
เป็นความสุขปนเศร้าที่ได้ดู Queer Eye ซีซั่น 8 จบลง เพราะแม้จะดีใจแค่ไหนที่พลังงาน (ที่ได้เห็นและได้รับ) ของ Queer Eye ยังคงเหมือนเดิม แต่พอเรารู้ว่ามันจะเป็นซีซั่นสุดท้ายของ Bobby แล้ว มันก็โหวงๆ ยังไงชอบกล และมันก็ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่เราจะคอยจับตามองดูในทุกการปรากฏตัวของ Bobby ว่าเค้าจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายนี้ไหม ... เศร้ายิ่งกว่าที่จนจบรายการ 6 EP (ถือเป็นซีซั่นที่มีจำนวนตอนน้อยที่สุด) ก็ไม่ได้มีการกล่าวคำอำลาของ Bobby อย่างเป็นทางการใดๆ เลย ก็คงต้องรอดูต่อในซีซั่นหน้าแหละว่า จะมีการพูดถึง Bobby อย่างไรบ้าง

สำหรับคนที่ไม่เคยดู Queer Eye มาก่อน ก็ต้องเกริ่นนำกันนิดนึงเช่นเคย Queer Eye เป็นรายการเรียลิตี้สไตล์เมคโอเวอร์ ที่มีทีม The Fab Five เป็นกูรูเควียร์ผู้รอบรู้ในหลากหลายด้านมาคอยดูแลปรับเปลี่ยนปรุงโฉมให้แขกรับเชิญได้พัฒนาตัวเองขึ้นในหลายๆ ด้าน ซึ่ง 5 สมาชิกของ The Fab Five ก็ได้แก่ Antoni ดูแลเรื่องอาหารการกิน, Tan ดูแลเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว, Jonathan ดูแลเรื่องทรงผมและกรูมมิ่ง, Karamo ดูแลเรื่องการปรับวิธีคิด วิธีการใช้ชีวิต และ Bobby ดูแลเรื่องดีไซน์การตกแต่งบ้าน ซึ่งมีการยืนยันแล้วว่า ซีซั่น 8 นี้จะเป็นซีซั่นสุดท้ายของ Bobby ที่จะร่วมงานกับ Queer Eye ท่ามกลางข่าวลือถึงเหตุผลต่างๆ นานามากมาย

กลับมาดูซีซั่น 8 ที่ The Fab Five ปักหลักถ่ายทำกันที่เมืองนิวออร์ลีนส์เป็นหลัก มีหลายตอนที่ทำเราน้ำตาแตกเช่นเดิม ด้วยเรื่องราวของแขกรับเชิญ การเปิดใจยอมรับให้ The Fab Five ก้าวเข้ามาเปลี่ยนชีวิต และชีวิตที่เปลี่ยนไปของพวกเค้ามันก็บันดาลใจจริงๆ ทั้ง Ernest ชายชราผิวสีที่ปล่อยปละละเลยตัวเอง และใช้ชีวิตห่างเกินกับภรรยาที่อยู่กินมานานมากขึ้นเรื่อยๆ ช่วงเปิดใจที่สามี-ภรรยาพูดคุยกันโดยมี Karamo คอยไกด์ทำเราน้ำตาไหลอาบ การพูดความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาเสมอ มันช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นจริงๆ นะ, Tim หนุ่มใหญ่ที่ชีวิตตกต่ำขั้นสุด ตกงาน เมียหย่า ต้องดูแลพี่ชายที่ป่วยติดเตียง และไร้สังคมเพื่อนฝูง การได้เห็นผู้ชายแมนๆ เปิดใจรับเพื่อนเกย์/เควียร์มันอบอุ่นดีเหลือเกิน, Denton หนุ่มที่เป็นผู้พิการทางการได้ยิน ผู้เป็นโค้ชฟุตบอลในโรงเรียนสำหรับคนหูหนวก พยายามผลักดันทุกอย่างเพื่อโรงเรียนและวัฒนธรรมการใช้ภาษามือ บันดาลใจมาก และชอบมากๆ ที่ The Fab Five พยายามเรียนรู้ภาษามือเพื่อสื่อสารกับเค้า, Anh สาวลูกครึ่งเวียดนาม ที่แม้จะเป็นเชฟที่ประสบความสำเร็จ แต่เธอยังมีสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจ เมื่อสูญเสียแม่ไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และพ่อก็ตัดสินใจไปมีครอบครัวใหม่โดยไม่บอกกล่าวเธอสักคำ โอ้โห พล็อตยิ่งกว่าหนังดราม่า และมันก็ดราม่าหนักหน่วงเลย แต่ตัว Anh ก็น่ารักและน่ากอดมากๆ ขณะเดียวกัน ก็มีตอนที่ดูสนุกมากๆ รวมอยู่ด้วย กับการตามหารักแท้ของ Alison อดีตแม่ชีที่ตัดสินใจออกจากการรับใช้ศาสนา เพื่อทำตามความต้องการส่วนลึกของตัวเอง ที่เลิฟมากๆ คือ เธอประกาศว่าตัวเองเปิดกว้างสำหรับทุกเพศ จะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง เควียร์ นอนไบนารี่ อะไรก็ได้ และมันก็น่าลุ้นมากที่ในช่วงท้ายเธอจะต้องเลือก 1 ใน 5 ของคนที่เธอได้พบเจอระหว่างถ่ายทำรายการไปออกเดตด้วย

ดู Queer Eye มาถึงซีซั่น 8 เราเลิกคิดและเลิกสนใจแล้วว่า บรรดา “ฮีโร่” หรือแขกรับเชิญในรายการจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมอีกหรือเปล่า บ้านช่องพวกเค้าจะกลับไปรกรุงรังหรือไม่ เพราะขนาดตัวเราเอง แม้จะบอกเสมอว่าได้รับพลังงานดีๆ จาก Queer Eye และตั้งใจว่าจะเป็นคนใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิมให้ได้ จะคอยรับฟังปัญหาของคนอื่นๆ ลงไม้ลงมือช่วยแก้ไขให้พวกเค้ามีชีวิตที่ดีขึ้น จะมีความสุขให้มากกว่าเดิม จะดูแลตัวเองให้ดีขึ้น ฯลฯ สุดท้าย เราก็ค่อยๆ ลืมความตั้งใจนั้นไป และกลับไปเป็นคนเดิมทุกที แต่! อย่างน้อยๆ การดู Queer Eye ในช่วงต้นปีแบบนี้ มันก็เป็นเป้าหมายให้เราพยายามอีกครั้ง ไม่รู้จะทำได้นานแค่ไหนนะ แต่มันก็ได้ทำบ้างแหละ เพราะเราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ เอาล่ะ มาเริ่มเป็นคนใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิมไปด้วยกันนะ แด่ Queer Eye!

รับชม Queer Eye ทุกซีซั่นได้ทาง Netflix