เป็นที่ทราบกันดีว่ามีนักศึกษาที่เป็นชาว LGBT ในประเทศไทยหลายคนแต่งตัวไม่ตรงกับเพศกำเนิดของตน บ้างแต่งชุดนักศึกษาไปเรียน บ้างแต่งชุดนักศึกษาไปสอบ หรือบ้างก็ได้รับโอกาสในการแต่งชุดนักศึกษาในเพศที่ตนเองต้องการเข้าพิธีรับปริญญาบัตร แต่นักศึกษาเหล่านี้ก็ยังต้องใช้รูปนักศึกษาตรงกับเพศกำเนิดของตัวเองอยู่ดี ดังนั้น พวกเขาและเธอจึงต้องการได้สิทธิ์ในการใช้รูปนักศึกษาตามเพศสภาพที่พวกเขาแสดงออกมา
 
หนึ่งในนักศึกษาข้ามเพศ กล่าวถึงข้อเรียกร้องต่อมหาวิทยาลัย ขอใช้ภาพถ่ายโดยไม่จำกัดเครื่องแบบนักศึกษาตามเพศกำเนิดเท่านั้นว่า “เราใช้ชีวิตเป็นผู้หญิง การที่ไปแต่งตัวเป็นผู้ชายน่าจะสร้างความสับสนมากกว่า เพราะคือการปลอมตัวให้เป็นผู้ชาย”
 

“นัชชชา กองอุดม” นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์  ซึ่งเป็นนักศึกษาข้ามเพศ ได้ยื่นหนังสือถึง อ.เพชร โอสถานุเคราะห์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ผ่าน ผศ.ดร.บุญรอด วุฒิศาสตร์กุล รองอธิการบดีอาวุโส ฝ่ายกิจการพิเศษ เรื่องขอให้ทางมหาวิทยาลัยอนุญาตให้นักศึกษาข้ามเพศ (LGBT) สามารถใช้ภาพถ่ายตรงตามเพศสภาพของตนเองประกอบเอกสารของทางมหาวิทยาลัยได้
 
โดยนัชชชากล่าวภายหลังยื่นหนังสือว่า ปัญหาที่หลายๆ คนเจอที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คือเพศที่หลากหลายต้องยื่นเอกสารตามเพศกำเนิด แม้เราแต่งตัวเป็นผู้หญิงแต่เวลายื่นเอกสารต้องแต่งตัวเป็นผู้ชาย ทั้งที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพเป็นมหาวิทยาลัยที่สร้างสรรค์ และเปิดโอกาสทางความคิดเต็มที่ แต่ปัญหานี้ก็เป็นปัญหาเล็กๆ ที่ทำให้เราถูกกีดกั้น ไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องการใช้ชีวิตและเลือกเพศได้อย่างเสรี จึงยื่นหนังสือให้มหาวิทยาลัยพิจารณาเรื่องดังกล่าว
 

ผศ.ดร.บุญรอด วุฒิศาสตร์กุล รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับหนังสือว่า มหาวิทยาลัยกรุงเทพให้เสรีภาพในการแต่งกายตามเพศสภาพอยู่แล้ว ส่วนที่นักศึกษาเสนอมานี้จะเกี่ยวกับเอกสารที่มหาวิทยาลัยออกให้ ซึ่งกำหนดว่าถ้าผู้ชายมีคำนำหน้าชื่อเป็น “นาย” ให้แต่งกายเป็นผู้ชาย ถ้าผู้หญิงเป็น “นางสาว” ก็ให้แต่งตามเพศกำเนิดตามเอกสารที่ออกให้ คนละส่วนกับการแต่งกายในมหาวิทยาลัยซึ่งสามารถแต่งกายได้ตามสบายอยู่แล้ว
 
เมื่อถามว่า หากใช้รูปภาพตามเพศสภาพซึ่งไม่ตรงกับเพศกำเนิดจะทำให้เกิดความสับสนหรือไม่ รองอธิการบดี กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ต้องไปตรวจสอบดูก่อน โดยเฉพาะในแง่ของกฎหมายเป็นอย่างไรต้องศึกษาก่อน