การสักเป็นประสบการณ์ที่มีความหมายและเปราะบาง ทั้งยังเป็นการกระทำที่มีอำนาจในการยืนยันความเป็นตัวของเรา และในขณะที่ร้านสักในสหรัฐอเมริกายังคงรักษาชื่อเสียง ในฐานะที่เป็นแหล่งการสักที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก วันนี้เราจะพาไปรู้จักช่างสักชาว LGBTQ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังกันค่ะ



Mars Hobrecker แห่งร้าน Somewhere
Mars Hobrecker ผู้ร่วมก่อตั้งและศิลปินช่างสักจากร้าน Somewhere เธอเรียนรู้วิชาชีพนี้ด้วยตัวเองมาตั้งแต่เริ่มแรก “การได้รับการเลี้ยงดูในฐานะเด็กผู้หญิงนั้น ทำให้ฉันรู้สึกเชื่อได้ค่อนข้างยากว่าร่างกายของเราเป็นของเราจริงๆ” ยิ่งเมื่อเธอเติบโตขึ้นมาโดยเรียนในโรงเรียนคาทอลิกที่เข้มงวดมากถึงขั้นสุด โดยทุกคนจะต้องสวมเครื่องแบบที่บ่งบอกเพศชัดเจน “ฉันสักครั้งแรกเมื่อตอนอายุย่างเข้า 18 และนั่นเป็นครั้งแรกในชีวิตของฉันที่ได้รู้สึกว่าสามารถตัดสินใจทำอะไรได้อย่างมีอิสระกับร่างกายของตัวเอง” เธอเริ่มต้นการเป็นช่างสัก โดยการสักให้กับเพื่อน และใช้การสักแบบใช้มือล้วนๆ ด้วยเข็มเย็บผ้ากับหมึกอินเดีย ปัจจุบัน งานสักของเธอได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะของ Kitchy Americana โดยภาพของเธอมักจะเป็นงานสไตล์งานภาพพิมพ์ไม้ ติดตามงานของ Mars ได้บน Instagram ชื่อของเธอค่ะ



Tamara Santibañez แห่งร้าน Saved Tattoo
Tamara Santibañez ศิลปินสหวิชาชีพชาวแอตแลนต้า เธอผสมผสานศิลปะ Chicanx แบบดั้งเดิมเข้ากับภาพพื้นหลังที่แปลกประหลาด เพื่อสร้างรอยสักสีดำและสีเทาที่มีรายละเอียดแปลกตาอย่างไม่น่าเชื่อ สะท้อนถึงพื้นหลังของเธอเอง ภาพของความงามที่ถูกผูกโยงและปิดล้อมด้วยดอกกุหลาบ ไปจนถึงสัญลักษณ์ความเชื่อคาทอลิก อย่างไม้กางเขน และหัวใจที่มีเลือดไหลอาบ นอกเหนือจากการทำงานที่ Saved Tattoo ซึ่งเธอเป็นเจ้าของร่วมกับภรรยา แล้ว Santibañez ยังเป็นบรรณาธิการผู้ก่อตั้งสำนักพิมพ์อิสระ Discipline Press ด้วย ติดตาม Tamara ได้บน Instagram ของเธอเช่นกันค่ะ



Sanyu Nicolas จากสตูดิโอส่วนตัว
รูปแบบศิลปะที่โดดเด่นของ Sanyu Nicolas นั้นคือความลึกลับจากมรดกต้นตระกูลชาวเฮติของเธอ คนมักจะอธิบายการทำงานของเธอว่าเป็น“ รังไหมแห่งจินตนาการ” ซึ่งพูดถึงสุนทรียภาพและความมหัศจรรย์อันเร้าอารมณ์อย่างเปิดเผย ภาพไซเรนที่เปลี่ยนเป็นเนบิวลาสีดำที่ตกแต่งด้วยพระจันทร์เสี้ยวและดวงดาว ภาพคู่รักสองคนในท่า 69 มีหัวนมชูชันบนเตียงผลไม้เมืองร้อน Nicolas เริ่มต้นอาชีพช่างสักที่ร้านสัก Saint Mark เล็กๆ ริมถนนในเมืองนิวยอร์กซิตี้ และตอนนี้มีสตูดิโอส่วนตัว เธอเชื่อว่ารอยสักมีความสามารถในการลบล้างความเจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรือจิตใจ “รอยสักช่วยให้คุณเปลี่ยนวิธีการนำเสนอตัวเองต่อโลก และฉันคิดว่ามันเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้กับคนอย่างเราๆ ชาว LGBTQ ในการกำหนดตัวเอง ตามเงื่อนไขของตัวเอง ไม่ใช่คนอื่น” เธอกล่าว เช่นเดียวกับสองสาวด้านบน คุณสามารถติดตามฝีมือของ Sanyu ได้บน Instagram ค่ะ

ที่มา : www.out.com