• @TOM NEWS
  • Dec-Jan 2023

เส้นลองจิจูดที่ 180 องศาลากผ่านเรา การปะทะกันของขั้วความคิดอันแตกต่าง

By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
ด้วยตัวบท วิธีการเล่าเรื่อง สไตล์การแสดงที่ดูประดิดประดอยเพื่อสื่อสารความหมายไปหมดทุกสิ่งอย่าง ทั้งยังมีความเป็นละครเวทีสูงมากๆ ทำให้ “เส้นลองจิจูดที่ 180 องศาลากผ่านเรา” เป็นซีรีส์ที่อยู่ในกลุ่มถ้าชอบก็จะชอบมากๆ ไปเลย แต่ถ้าไม่ชอบก็อาจดูต่อจนจบไม่ไหว ซึ่งสำหรับเราแล้ว นี่คือซีรีส์ที่เราชอบมาก เพลินมาก ถูกจริตที่สุด

“ศศิวิมล” คุณแม่ผู้กำกับละครที่อยู่ในวงการมายาวนาน จัดกระเป๋าออกเดินทางขับรถไปดูโลเคชั่นในต่างจังหวัดกับ “แวง” ลูกชายหนุ่มผู้รักสันโดษ และมีทีท่าต่อต้านสังคม เพียงไม่กี่ฉากเราก็เห็นแล้วว่าแม่ลูกคู่นี้อยู่ในความสัมพันธ์แบบสามวันดีสี่วันไข้ ความใกล้ชิดที่มีกำแพง อารมณ์ที่เหวี่ยงไปมาขึ้นลงแปรปรวนของทั้งคู่ และเรื่องของพ่อที่ไม่มีใครอยากเอื้อนเอ่ยออกมาตรงๆ แต่แล้วเมื่อทั้งคู่พาตัวเองไปหลงทางอยู่กลางป่าแล้วดันไปเจอเข้ากับบ้านหลังโตของ “อินทวุธ” หนุ่มใหญ่ที่อยู่ในสถานะเพื่อนรักของศศิวิมลในสมัยเรียนมหา’ลัย และเป็นรุ่นน้องสุดที่รักของ “สยาม” ผู้เป็นพ่อของแวง พวกเค้าจึงได้รื้อฟื้นคืนวันเก่าๆ ร่วมกัน ทั้งเรื่องในอดีตที่งดงาม และความลับอันเป็นฝันร้ายน่าเจ็บปวด

เอาเข้าจริงเราคิดว่า ถ้าบีบย่อตัดทอนปรับให้ “เส้นลองจิจูดที่ 180 องศาลากผ่านเรา” เป็นหนังที่มีความกระชับกว่านี้คงจะสนุกและย่อยง่ายกว่านี้ แต่การเป็นซีรีส์ความยาว 8 EP มันก็ทำให้เราละเลียดอารมณ์ ดื่มด่ำกับสำนวนภาษา และเฝ้ามองตีความสิ่งต่างๆ ผ่านรายละเอียดของงานโปรดักชั่น พร็อพ การวางกล้อง ฯลฯ ได้สนุกดีเหมือนกัน แน่นอน สำหรับใครหลายคนการดูซีรีส์เรื่องนี้อาจจะรู้สึกสะดุดกับสำนวนภาษาที่ตัวละครใช้สื่อสารกัน ไปจนถึงน้ำเสียง วิธีการพูดที่นักแสดงเลือกใช้ แต่ถ้าปรับจูนตัวเองได้แล้ว และตั้งใจฟังสิ่งที่ตัวละครพูดคุย (หรือเก็บงำ เงียบเสียง หรือแม้แต่เว้นวรรค) ให้ดี และทำความเข้าใจกับมันให้ได้ จะพบว่าเราได้อะไรมากกว่าเรื่องที่ตัวละครคุยกันเพียงชั้นเดียว

แฟนคลับเตรียมเฮ!! มิติอาร์ต มีเดียได้ฤกษ์ปล่อยทีเซอร์ซีรีส์ “เส้นลองจิจูดที่  180 องศา ลากผ่านเรา” ออนแอร์ตอนแรก 14 ส.ค.นี้!!ทาง one31 | MCINE NEWS -  เอ็มซีน บันเทิง

อาจจะไม่ใช่ความลับอะไร เพราะคิดว่าทุกคนน่าจะเดาเรื่องได้อยู่แล้ว ความลับที่กว่าตัวละครจะเปิดเผยออกมาตรงๆ ก็คือ สยามผู้เป็นพ่อของแวงนั้นรักอินทวุธมาตลอด จนกระทั่งวันที่เค้าตายจากไปโดยอุบัติเหตุทางรถยนต์ แล้วก็เหมือนโลกเล่นตลก เพราะหลายสิบปีต่อมา ก็เป็นแวงที่ตกหลุมรักอินทวุธเช่นกัน ความขัดแย้งหนักหน่วงที่ตัวละครทั้ง 3 ต้องเผชิญจึงรุนแรงมากกว่าแค่เรื่องได้รับรู้ว่าลูกชายชอบพอกับผู้ชาย, การได้สัมผัสประสบการณ์ซ้ำรอยเดิมที่ทำให้ใครคนอื่นต้องเจ็บปวด หรือการต้องรับมือกับแม่ที่ต่อต้านไม่เข้าใจความเป็นเกย์ และเรียกร้องความรักการครอบครอง แต่มันคือวังวนของความสัมพันธ์ที่ทำให้ทุกอย่างหนักอึ้งกว่าเดิม

ชอบมากๆ ที่ตัวบทแทรกนัยทางสังคมและการเมืองเข้าไปในบทสนทนาสัพเพเหระเสมอๆ แล้วเปิดโอกาสให้ตัวละครที่อยู่คนละขั้วความคิดหรืออยู่กันคนละรุ่นได้โต้เถียงผ่านมุมมองของตนเอง และสิ่งนี้ก็มีอยู่จนกระทั่งฉากสุดท้ายของซีรีส์ (แล้วมันก็น่าเศร้ามากๆ ที่มันสะท้อนความจริงว่า เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงเนื้อแท้หรือความคิดอ่านของใครได้ คนรุ่นใหม่ต้องเดินหน้าต่อไป และคนรุ่นเก่าก็ยังจมจ่อมอยู่กับความทรงจำ-คืนวันอันดีและร้ายของตนเองเหมือนเดิม)

เส้นลองจิจูดที่ 180 องศาลากผ่านเรา (serie 2022) - Tráiler. resumen, reparto  y dónde ver. Creada por Punnasak Sukee | La Vanguardia

แต่สิ่งที่ชอบมากที่สุดคือฉากการปะทะกันทั้งหลายของตัวละคร แม้จะเกิดขึ้นหลายครั้งหลายหนในแต่ละ EP แต่มวลอารมณ์ สิ่งที่ตัวละครสื่อสาร และทางลงของกราฟนั้นแตกต่างกันไป ที่สำคัญที่สุด หลายครั้งมันลดการวางท่าของตัวละครลง แล้วสะท้อนอารมณ์ดิบๆ ของตัวละครออกมาได้อย่างจะแจ้งกระจ่างตา แน่นอน จากคนที่เคยผ่านประสบการณ์คล้ายๆ กันกับแวงมาก่อน เมื่อแม่ได้รับรู้ถึงตัวตนอีกด้านของเรา แล้วสะท้อนกลับออกมาเป็นความผิดหวัง เจ็บปวด สับสน คิดไปเองว่าทุกอย่างแก้ไขได้ โยนความผิดให้ใครไปทั่ว หรือแม้แต่ถามออกมาดังๆ ว่า ฉันเลี้ยงลูกไม่ดีตรงไหนเหรอ ไปจนถึงการอ้างถึงความรักความหวังดีที่มีต่อลูก ทั้งหมดทั้งมวล มันทำให้เราเจ็บปวดไปพร้อมกับแวง และเจ็บมากขึ้นไปอีก เมื่อรู้ดีว่า สิ่งที่ตัวบทและตัวละครอย่างอินทวุธเลือกทำนั้นมันช่างสมจริงเสียเหลือเกิน

รับชม “เส้นลองจิจูดที่ 180 องศาลากผ่านเรา” ได้ทาง TrueID