• @TOM NEWS
  • May 2016

น้องชายได้พบกับพี่ชายของตัวเองที่เป็นเกย์และหายตัวไป หลังถูกปกปิดโดยพ่อแม่โฮโมโฟเบียมาหลายสิบปี

Source : Reddit
Photos : Reddit
By : @tom Actz Editorial

ชายหนุ่มบอกเล่าเรื่องราวสุดซึ้งเกี่ยวกับการพบกับพี่ชายเกย์ที่หายตัวไป
ผมจะเขียนในแบบที่ทุกคนสาวไม่ถึงตัวผมแล้วกันนะ เรื่องมันเริ่มต้นขึ้นตอนที่พี่ชายของผมหายไปเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งการหายตัวไปในที่นี้คือเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย เป็นคดีลึกลับเก่าเก็บที่ไม่เคยถูกคลี่คลาย ประมาณนั้นเลยหล่ะ ผมยังจำได้ตอนที่มีนักข่าวมาสัมภาษณ์พ่อแม่ของผมในห้องนั่งเล่น แต่ผมคิดว่าผมรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา

ตอนนั้นผมอายุน้อยมากตอนเขาหายตัวไป ผมจำเขาได้แค่เลือนลาง แต่จำได้ชัดเจนว่าผมรักเขามาก เขาชอบใช้รถเข็น เข็นผมไปรอบหมู่บ้าน ซึ่งปกติวัยรุ่นประมาณเขาาจะไม่ทำเรื่องพวกนี้กันหรอก ในช่วงก่อนที่พี่ชายผมจะหายตัวไป ผมจำได้ว่าเขาอยู่บ้านดูแลผม แล้วตอนนั้นผมก็อยู่ในห้องเล่นเกมส์กด ในวันนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งมาบ้าน ผมจำได้ว่าเขาแก่กว่าพวกเรามาก ประมาณรุ่นพ่อเลย พี่ชายผมสั่งให้ผมเข้าไปอยู่ในห้องทุกครั้งที่มีคนกดกริ่ง พอเขาไป พี่ก็สั่งให้ผมเก็บเงียบ ห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร ซึ่งผมในวัยนั้น ในหัวก็มีแต่เรื่องเกมส์กับ  “วันนี้จะได้กินขนมรึเปล่า” เท่านั้นแหละ ผมก็ยอมทำตามที่พี่ชายบอก ผมไม่ได้แคร์ และก็ไม่เข้าใจถึงเรื่องพวกนี้ หนึ่งวันก่อนที่เขาจะหายไป ผมจำได้ว่าผู้ใหญ่คนนี้มาหา ตอนนั้นผมอยู่ในครัว เห็นเขาจูบพี่ของผม พวกเขากอดกัน ผมไม่ได้ตั้งใจจะไปเห็นเข้า ผู้ใหญ่คนนั้นเขาโบกมือมาให้ ผมก็โบกกลับ แล้วก็ดูการ์ตูนต่อ

ในวันรุ่งขึ้น วันที่พี่ชายผมจะหายไป  พ่อแม่ผมก็ไปทำงาน พี่ก็ทำตัวแปลก ๆ คอยเหลือบมองนาฬิกาตลอด ตอนเที่ยงของวันนั้นเขามาบอกผมว่า “ไปเล่นรถเข็นกันมั้ย” ตอนนั้นผมกำลังเล่นเกมส์อยู่เลยปฎิเสธไป จากนั้นเขาก็พยายามขอร้องผมให้ไปเล่นด้วยกัน ผมก็ตอบไม่เอา ๆ ตลอด พี่เลยบอกว่าจะไปเอาของกับเพื่อนบ้าน ผมจำไม่ได้ด้วยซำ้ว่าเขาบอกว่าอะไร ผมตอบตกลง เขาบอกว่าอย่าเปิดประตูให้ใคร ยกเว้นพ่อแม่ ผมก็ตะโกนตอบไปอย่างดังว่า “โอเค” เพราะตอนนั้นกำลังหงุดหงิดกับเกมมาริโอ้ แล้วเขาก็ไปและไม่เคยกลับมาอีกเลย...

สองปีผ่านไป ผมนอนไม่ค่อยหลับเพราะครุ่นคิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น ว่าเขาอาจจะหนีไปกับผู้ชายคนนั้น หรืออาจจะมีอะไรแย่ ๆ เกิดขึ้นก็ได้ จนกระทั่งตอนเข้ามหาวิทยาลัยปีหนึ่ง ผมเป็นส่วนหนึ่งของทีมกีฬาระดับมหาวิทยาลัยที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง ตอนนั้นภาพหมู่ทีมผมได้ลงเว็บไซต์ ESPN พร้อมกับชื่อมหาวิทยาลัย ไม่กี่วันหลังจากนั้นผมก็ได้รับจดหมายซึ่งถูกส่งมาที่ห้องพักของผม พร้อมตะกร้าของขวัญ ผมนึกว่าที่บ้านส่งมาให้เลยโยนจดหมายที่แนบมาด้วยทิ้งไป แล้วตะกุยกินขนมในตะกร้า มีแต่ขนมหวานทั้งนั้นเลย ทั้ง Nerds, Jolly rancher, Tootsie Rolls และ Hershey’s Kisses. ผมโทรหาพ่อตั้งใจว่าจะขอบคุณ แต่กลับกลายเป็นว่าพ่อกับแม่ไม่ได้เป็นคนส่งมา จากนั้นผมก็นึกได้ว่า นี่มันขนมที่ผมกินสมัยเด็ก ๆ นี่ ตอนเด็ก ๆ กินแต่พวกนี้จริง ๆ ผมพยายามหาการ์ดที่แนบมาด้วยแต่ก็หาไม่เจอซักที ผมก็นึกได้ว่าสมัยก่อนพี่ชอบเข็นรถพาผมไปปั๊มน้ำมันใกล้ ๆ บ้าน เพื่อที่จะซื้อขนมกินกันหลังอาหารเย็น ถึงแม้ว่ามันมีโทษประหารเชียวถ้าแม่รู้เข้า ปริศนานี้มันก็กวนใจผมมาตลอด จนผมรั้นถามพ่อแม่ พ่อแม่ของผมที่ “เศร้าเสียใจมาก” กับการหายไปของพี่ชาย

ว่าสั้น ๆ ผมไปหานักสืบที่รู้จักกับครอบครัวผมตั้งแต่ที่พี่ผมหายตัวไป พอผมถาม เขาก็บอกว่าพี่ของผมถูกลบออกจากทะเบียนคนหาย ผมถามว่า “นี่มันหมายความว่ายังไง” นักสืบบอกว่าพี่ผมถูกลบออกจากทะเบียนคนหาย ตามคำขอของพ่อแม่ผม พอผมถามพ่อ เขาก็เมินลูกเดียว แม่บอกว่าพี่ชายของผมยังมีชีวิตอยู่ดี (เท่าที่แม่ผมรู้น่ะ) เขาเจอพี่ของผมเมื่อหลายปีที่แล้ว นานมากแล้ว และมารู้ว่าเขาไปอยู่กับผู้ชายอีกคน เขาเป็นเกย์ และมันทำให้พ่อแม่ผมรู้สึกรังเกียจ พี่ผมพยายามกลับมาหา แต่พ่อแม่ผมบอกว่าไม่อยากเจอพี่ ซ้ำยังบอกพี่ว่า ผมเกลียดพี่


"ปริศนานี้มันก็กวนใจผมมาตลอด จนผมรั้นถามพ่อแม่ พ่อแม่ของผมที่ “เศร้าเสียใจมาก” กับการหายไปของพี่ชาย"

ผมช็อคมาก โกรธมาก อาละวาดเลย พ่อแม่ผมก็ไม่ค่อยจะออกอาการอะไรตอนผมโวยวาย พวกเขาเกลียดพี่ชายผมจากใจจริง เพียงเพราะเขาเป็นสิ่งที่เขาเป็น “เกย์” พ่อแม่ผมหลอกผมมาทั้งชีวิต พี่ชายผมพลาดวันเกิดของหลาน พลาดงานแต่งของผม วันรับปริญญา ทุกอย่างเลย! เพียงเพราะพ่อแม่ของผม พวกเขาโกหกผม ผมได้เบอร์โทรศัพท์ของพี่ชายในที่สุด แต่ก็ไม่กล้าโทรหาซักที โทรไปสองสามกริ๊งก็รีบวาง คือผมกลัวและตื่นเต้นน่ะ แต่ด้วยความคะยั้นคะยอของภรรยาของผมกับเหล้าอีกสองสามแก้ว ในที่สุดผมก็รวบรวมความกล้าโทรหาจนได้ สิ่งแรกที่ผมพูดกับเขาเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษนั้นน่าขนลุกสุด ๆ

“ฉันได้เบอร์นายมา” เขาถามผมว่าผมเป็นใครและต้องการอะไร ผมตอบ “นี่ฉันเอง” สายก็เงียบไปนานมาก จนผมนึกว่าเขาตัดสาย จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงเขาบอกคนให้ปิดวิทยุ มีเสียงปิดหน้าต่าง เสียงลมก็หยุดลง จากนั้นเขาก็ถามว่าผมชื่ออะไร พอผมตอบเขาก็บอกว่าผมโกหก ผมบอกเขาว่าผมได้เบอร์เขามาจากสำนักงานเด็กสูญหายและนักสืบ ผมได้ยินเสียงเขาอุทานด้วยความตกใจ เขาถามว่าเชือกรองเท้าของเขาสีอะไร ตอนที่ปิคนิคด้วยกันสมัยเด็ก ๆ ผมจำได้ว่า แม่ผมเคยโกรธที่พี่ผมใส่รองเท้าสีน้ำเงินที่มีเชือกสีส้ม มันเป็นครั้งสุดท้ายที่เราอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าแบบครอบครัว ผมได้ยินเสียง...ผมได้ยินเขาร้องไห้ สิ่งแรกที่เขาถามหลังจากนั้นคือ “นายอยู่ที่ไหน” ผมบอกว่าผมอยู่ห่างจากบ้านไปไม่กี่ชั่วโมง โดยไม่ลังเลเขาบอกว่า ”ฉันกำลังไป”

เขาพุ่งไปสนามบินแบบไม่มีสัมภาระ ซื้อตั๋วแล้วบินมาแบบเร็วจี๋ เราถือหูโทรศัพท์คุยกันตลอดทาง พอเขาเดินออกมาจากเทอมินอล ผมเห็นเขาแล้วรู้ทันทีเลยว่าเป็นพี่ผม เขาย่างเข้าวัยกลางคน เส้นผมสีตกนิด ๆ มีกล้ามหุ่นฟิต เขาดูเหมือนเหมือนพ่อเลยแต่ดูดีกว่า ผมแทบจะผลักหญิงแก่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ให้พ้นทางแล้วพุ่งไปกอดเขาแน่น เขาสูงกว่าผมประมาณสองนิ้ว เขาอุ้มผมลอยได้เลย เขาร้องไห้ ผมก็ร้องไห้ แทบจะฟูมฟาย