- @TOM NEWS
- Jan 2021
The Prom แด่ทุกความกล้าหาญของเยาวชน LGBTQ
By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
สว่างสดใส ฟีลกู๊ด แต่ก็พูดเรื่องหนักๆ แบบย่อยให้เข้าใจได้ง่ายๆ ไปพร้อมกันด้วย โดยเฉพาะประเด็นการเป็นเยาวชน LGBTQ ที่ต้องรับมือกับความเกลียดชัง ความไม่เข้าใจ ไปจนถึงการต่อต้านจากคนรอบข้าง ครอบครัว หรือสังคมภาพใหญ่ ซึ่งเป็นแกนกลางหลักของเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งก็คงต้องให้เครดิตตัวบทละครเวทีดั้งเดิมด้วย
เมื่อ 2 นักแสดงละครบรอดเวย์ชื่อดังถูกโจมตีไม่มีชิ้นดีจากมิวสิคัลเรื่องล่าสุด เหล้ารินใส่แก้วถูกส่งให้กันไปจนได้ที่ ทั้งคู่พร้อมด้วยเพื่อนนักแสดงละครเวทีตกอับจึงตัดสินใจหาหนทางกอบกู้ชื่อเสียงด้วยการทำความดีตามกระแส อย่างการไปช่วยรณรงค์ให้ชุมชนอนุรักษนิยมสุดโต่งเปิดใจยอมรับเด็กสาวเลสเบี้ยน หลังจากที่โรงเรียนประกาศงดจัดงานพรอม เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กสาวเลสเบี้ยนอย่างเธอเข้าร่วมงานโดยสร้างค่านิยมผิดๆ อย่างการแต่งกายข้ามเพศ หรืออาจจะจูงมือแฟนสาวเข้าร่วมงานพรอม!
งานกำกับของ Ryan Murphy ชิ้นนี้ทำให้เราคิดถึง Glee ซีรี่ส์มิวสิคัลสุดฮิต ซึ่งเป็นผลงานของเขาด้วยอย่างช่วยไม่ได้ กับหลายๆ องค์ประกอบที่คล้ายคลึงกัน และมันก็ทำงานกับเราในแบบเดียวกัน คือหลังจากใช้เวลาปรับจูนตัวเองอยู่พักนึง ในที่สุด เราก็เปิดใจยอมรับโลกใบนี้ที่ตัวละครจะร้องเล่นเต้นระบำและคลี่คลายปมปัญหายุ่งยากต่างๆ ได้ด้วยเสียงเพลง แล้วก็ชอบมากที่เป็นอีกครั้งที่ Ryan Murphy เล่าเรื่องเด็กสาวเลสเบี้ยนในรั้วโรงเรียน (เคยเขียนถึงไปแล้วว่า หาได้ยากนักที่คนทำงานฝั่งเกย์จะแคร์ประเด็น LGBTQ อื่นๆ นอกจากตัว G ของตนเองแต่เพียงฝั่งเดียว และ Ryan Murphy ก็แสดงให้เห็นอยู่เสมอว่า เค้าอยู่เคียงข้างทุกความหลากหลายทางเพศจริงๆ)
ชอบ Jo Ellen Pellman ในบท Emma เด็กสาวเลสเบี้ยนตัวเอกของเรื่องมาก ในความเป็นธรรมชาติ มันมีเสน่ห์บางอย่างแบบที่นักแสดงของ Ryan Murphy มีเสมอ แล้วเสียงร้องของเธอก็เจิดจ้าพลังบวกมาก Meryl Streep ในบทดราม่าควีนราชินีบรอดเวย์ก็มีซีนให้เธอได้แสดงอารมณ์อันซับซ้อนในบทแสนจะโฉ่งฉ่างได้อย่างน่าจดจำ, James Corden ในบทเกย์สาวที่ไม่ได้มาเป็นตัวตลก (ซึ่งถ้าเป็นละครไทย ไม่วายต้องมาขายขำแน่ๆ) แต่ตัวละครตัวนี้มีมิติและเรื่องราวของตัวเอง, Nicole Kidman แม้จะเป็นบทสมทบ แต่ก็ทำให้เราระลึกได้ว่า เธอร้องเพลงดีและวาดลวดลายเต้นรำได้ดีแค่ไหน, Andrew Rannells ซีนร้องเพลงปลุกใจในห้างสรรพสินค้านั้นดีมากจริงๆ
ดีใจที่ได้เปิดประเดิมปีใหม่ด้วยหนังแบบนี้ หนังที่ส่งพลังบวกเพิ่มความหวังให้กับตัวเราเองและโลกใบนี้ พร้อมกับเป็นหนังที่ทำให้เราหวนคิดถึงความสำคัญของ “ความกล้าหาญ” ที่จะเป็นตัวของตัวเอง แม้ว่ามันจะเสี่ยงหรือต้องสูญเสียอะไรไปก็ตาม แต่ความกล้าหาญนี้ล่ะ ที่จะทำให้เราสามารถเชิดหน้ายิ้มและภูมิใจในตัวเองได้ แล้วความกล้าแบบนี้ก็มีแต่ชาว LGBTQ อย่างพวกเราเท่านั้นที่จะเข้าใจ ว่าแล้วก็ขอโอบกอดและส่งกำลังใจให้กับทุกความกล้าของทุกคนด้วยครับ
ชม The Prom ได้ทาง Netflix
สว่างสดใส ฟีลกู๊ด แต่ก็พูดเรื่องหนักๆ แบบย่อยให้เข้าใจได้ง่ายๆ ไปพร้อมกันด้วย โดยเฉพาะประเด็นการเป็นเยาวชน LGBTQ ที่ต้องรับมือกับความเกลียดชัง ความไม่เข้าใจ ไปจนถึงการต่อต้านจากคนรอบข้าง ครอบครัว หรือสังคมภาพใหญ่ ซึ่งเป็นแกนกลางหลักของเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งก็คงต้องให้เครดิตตัวบทละครเวทีดั้งเดิมด้วย
เมื่อ 2 นักแสดงละครบรอดเวย์ชื่อดังถูกโจมตีไม่มีชิ้นดีจากมิวสิคัลเรื่องล่าสุด เหล้ารินใส่แก้วถูกส่งให้กันไปจนได้ที่ ทั้งคู่พร้อมด้วยเพื่อนนักแสดงละครเวทีตกอับจึงตัดสินใจหาหนทางกอบกู้ชื่อเสียงด้วยการทำความดีตามกระแส อย่างการไปช่วยรณรงค์ให้ชุมชนอนุรักษนิยมสุดโต่งเปิดใจยอมรับเด็กสาวเลสเบี้ยน หลังจากที่โรงเรียนประกาศงดจัดงานพรอม เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กสาวเลสเบี้ยนอย่างเธอเข้าร่วมงานโดยสร้างค่านิยมผิดๆ อย่างการแต่งกายข้ามเพศ หรืออาจจะจูงมือแฟนสาวเข้าร่วมงานพรอม!
งานกำกับของ Ryan Murphy ชิ้นนี้ทำให้เราคิดถึง Glee ซีรี่ส์มิวสิคัลสุดฮิต ซึ่งเป็นผลงานของเขาด้วยอย่างช่วยไม่ได้ กับหลายๆ องค์ประกอบที่คล้ายคลึงกัน และมันก็ทำงานกับเราในแบบเดียวกัน คือหลังจากใช้เวลาปรับจูนตัวเองอยู่พักนึง ในที่สุด เราก็เปิดใจยอมรับโลกใบนี้ที่ตัวละครจะร้องเล่นเต้นระบำและคลี่คลายปมปัญหายุ่งยากต่างๆ ได้ด้วยเสียงเพลง แล้วก็ชอบมากที่เป็นอีกครั้งที่ Ryan Murphy เล่าเรื่องเด็กสาวเลสเบี้ยนในรั้วโรงเรียน (เคยเขียนถึงไปแล้วว่า หาได้ยากนักที่คนทำงานฝั่งเกย์จะแคร์ประเด็น LGBTQ อื่นๆ นอกจากตัว G ของตนเองแต่เพียงฝั่งเดียว และ Ryan Murphy ก็แสดงให้เห็นอยู่เสมอว่า เค้าอยู่เคียงข้างทุกความหลากหลายทางเพศจริงๆ)
ชอบ Jo Ellen Pellman ในบท Emma เด็กสาวเลสเบี้ยนตัวเอกของเรื่องมาก ในความเป็นธรรมชาติ มันมีเสน่ห์บางอย่างแบบที่นักแสดงของ Ryan Murphy มีเสมอ แล้วเสียงร้องของเธอก็เจิดจ้าพลังบวกมาก Meryl Streep ในบทดราม่าควีนราชินีบรอดเวย์ก็มีซีนให้เธอได้แสดงอารมณ์อันซับซ้อนในบทแสนจะโฉ่งฉ่างได้อย่างน่าจดจำ, James Corden ในบทเกย์สาวที่ไม่ได้มาเป็นตัวตลก (ซึ่งถ้าเป็นละครไทย ไม่วายต้องมาขายขำแน่ๆ) แต่ตัวละครตัวนี้มีมิติและเรื่องราวของตัวเอง, Nicole Kidman แม้จะเป็นบทสมทบ แต่ก็ทำให้เราระลึกได้ว่า เธอร้องเพลงดีและวาดลวดลายเต้นรำได้ดีแค่ไหน, Andrew Rannells ซีนร้องเพลงปลุกใจในห้างสรรพสินค้านั้นดีมากจริงๆ
ดีใจที่ได้เปิดประเดิมปีใหม่ด้วยหนังแบบนี้ หนังที่ส่งพลังบวกเพิ่มความหวังให้กับตัวเราเองและโลกใบนี้ พร้อมกับเป็นหนังที่ทำให้เราหวนคิดถึงความสำคัญของ “ความกล้าหาญ” ที่จะเป็นตัวของตัวเอง แม้ว่ามันจะเสี่ยงหรือต้องสูญเสียอะไรไปก็ตาม แต่ความกล้าหาญนี้ล่ะ ที่จะทำให้เราสามารถเชิดหน้ายิ้มและภูมิใจในตัวเองได้ แล้วความกล้าแบบนี้ก็มีแต่ชาว LGBTQ อย่างพวกเราเท่านั้นที่จะเข้าใจ ว่าแล้วก็ขอโอบกอดและส่งกำลังใจให้กับทุกความกล้าของทุกคนด้วยครับ
ชม The Prom ได้ทาง Netflix