- @TOM NEWS
- Feb-Mar 2017
Elle หนังชิงนำหญิงออสการ์ กับประเด็นหญิงแกร่งถูกข่มขืน และฉากอวลกลิ่นเลสฯ
By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
แม้จะพลาดรางวัลนักแสดงนำหญิงจากเวทีออสการ์ไป (แต่คุณป้า Isabelle Huppert ก็กวาดรางวัลนำหญิงจากอีกหลายเวทีเหมือนกัน) ในวาระหนังฝรั่งเศสเรื่องนี้ยังคงมีรอบฉายในเมืองไทย และมีฉากอวลกลิ่นเลสฯ เราจึงขอแนะนำให้ทุกคนตีตั๋วเข้าโรงไปดูด่วน ก่อนมันจะถูกถอดโปรแกรมไปหมด!
Elle เปิดเรื่องด้วยฉาก Michèle กำลังถูกโจรคลุมหน้ากากสกีข่มขืนภายในบ้านของตัวเอง เมื่อเสร็จกิจ มันจากไป ทิ้งเธอกับร่างบอบช้ำให้ลุกขึ้นล้างคราบเลือดที่ไหลนองตรงหว่างขา ใบหน้าบวมช้ำเพราะถูกทำร้าย กวาดเศษจานชามที่แตก และใช้ชีวิตต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ชีวิตของเธอไม่ง่ายดายขนาดนั้น มีปัญหาร้อยแปดรอคอยให้เธอเผชิญหน้าอยู่ ทั้งภาวะความเป็นแม่ที่ต้องรับมือกับลูกชายทึ่มทื่อและลูกสะใภ้ท้องแก่สุดแสบ, ภาวะความเป็นเมีย (เก่า) ที่ได้สัมผัสกับความหวงก้างเมื่ออดีตสามีกำลังมีความสัมพันธ์ใหม่ ส่วนชู้รักของเธอเองก็งี่เง่าเหมือนในสมองมีแต่อสุจิ, ภาวะความเป็นผู้นำหญิงในที่ทำงาน เมื่อบริษัทออกแบบเกมนั้นมีแต่ผู้ชายเต็มออฟฟิศ, ภาวะความเป็นลูกสาว ที่ต้องปะทะคารมและอารมณ์กับแม่ผู้กำลังอินเลิฟกับเด็กหนุ่มคนใหม่ และพ่อที่มาพร้อมอดีตซึ่งหลอกหลอนเธอมาตลอดชีวิต ที่สำคัญ ดูเหมือนไอ้โจรวายร้ายนั้นยังตามรังควาญเธออยู่เรื่อยๆ และเธอไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันคือใคร
ชอบบรรยากาศของหนังมาก มันมีความคาดเดาไม่ได้ (พอๆ กับวิธีรับมือและการแสดงออกของตัวละคร) แทบทุกฉากเราจะหายใจไม่ทั่วท้อง นั่งจิกแขนตัวเอง เพราะไม่รู้ว่าจะมีภัยคุกคาม Michèle เกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ขณะเดียวกัน มันก็ถูกผ่อนคลายด้วยตลกร้าย ลีลาชวนหัว และรอยยิ้มเล็กๆ ซึ่งผุดพรายขึ้นบนใบหน้า Michèle นั่นแหละ ที่ทำให้ตัวละครมีเลือดเนื้อ และไม่ได้ดู “จิต” ไปทุกขณะจิต ทั้งหมดทั้งปวงต้องคารวะ Paul Verhoeven ที่คุมจังหวะหนังได้อัศจรรย์มาก แน่นอนที่สุด Isabelle Huppert นักแสดงหญิงชาวฝรั่งเศสผู้รับบท Michèle คือคนที่ต้องกราบ
ที่สุดแล้ว แม้จะเป็นหนังที่ตัวละครถูกทำร้ายและถูกคุกคามจากเพศชาย แต่ Elle ก็กลายเป็นหนังเชิดชูเพศหญิง พลังหญิง เพื่อนหญิงอย่างงดงาม โดยเฉพาะเมื่อฉากสุดท้ายมาถึง และคงไม่มีใครกล้าตราหน้า Paul Verhoeven อีกแล้วว่า เค้าเป็นผู้กำกับที่คลั่งไคล้การย่ำยีเพศหญิง
Follow @tomactzMag
แม้จะพลาดรางวัลนักแสดงนำหญิงจากเวทีออสการ์ไป (แต่คุณป้า Isabelle Huppert ก็กวาดรางวัลนำหญิงจากอีกหลายเวทีเหมือนกัน) ในวาระหนังฝรั่งเศสเรื่องนี้ยังคงมีรอบฉายในเมืองไทย และมีฉากอวลกลิ่นเลสฯ เราจึงขอแนะนำให้ทุกคนตีตั๋วเข้าโรงไปดูด่วน ก่อนมันจะถูกถอดโปรแกรมไปหมด!
Elle เปิดเรื่องด้วยฉาก Michèle กำลังถูกโจรคลุมหน้ากากสกีข่มขืนภายในบ้านของตัวเอง เมื่อเสร็จกิจ มันจากไป ทิ้งเธอกับร่างบอบช้ำให้ลุกขึ้นล้างคราบเลือดที่ไหลนองตรงหว่างขา ใบหน้าบวมช้ำเพราะถูกทำร้าย กวาดเศษจานชามที่แตก และใช้ชีวิตต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ชีวิตของเธอไม่ง่ายดายขนาดนั้น มีปัญหาร้อยแปดรอคอยให้เธอเผชิญหน้าอยู่ ทั้งภาวะความเป็นแม่ที่ต้องรับมือกับลูกชายทึ่มทื่อและลูกสะใภ้ท้องแก่สุดแสบ, ภาวะความเป็นเมีย (เก่า) ที่ได้สัมผัสกับความหวงก้างเมื่ออดีตสามีกำลังมีความสัมพันธ์ใหม่ ส่วนชู้รักของเธอเองก็งี่เง่าเหมือนในสมองมีแต่อสุจิ, ภาวะความเป็นผู้นำหญิงในที่ทำงาน เมื่อบริษัทออกแบบเกมนั้นมีแต่ผู้ชายเต็มออฟฟิศ, ภาวะความเป็นลูกสาว ที่ต้องปะทะคารมและอารมณ์กับแม่ผู้กำลังอินเลิฟกับเด็กหนุ่มคนใหม่ และพ่อที่มาพร้อมอดีตซึ่งหลอกหลอนเธอมาตลอดชีวิต ที่สำคัญ ดูเหมือนไอ้โจรวายร้ายนั้นยังตามรังควาญเธออยู่เรื่อยๆ และเธอไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันคือใคร
ชอบบรรยากาศของหนังมาก มันมีความคาดเดาไม่ได้ (พอๆ กับวิธีรับมือและการแสดงออกของตัวละคร) แทบทุกฉากเราจะหายใจไม่ทั่วท้อง นั่งจิกแขนตัวเอง เพราะไม่รู้ว่าจะมีภัยคุกคาม Michèle เกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ขณะเดียวกัน มันก็ถูกผ่อนคลายด้วยตลกร้าย ลีลาชวนหัว และรอยยิ้มเล็กๆ ซึ่งผุดพรายขึ้นบนใบหน้า Michèle นั่นแหละ ที่ทำให้ตัวละครมีเลือดเนื้อ และไม่ได้ดู “จิต” ไปทุกขณะจิต ทั้งหมดทั้งปวงต้องคารวะ Paul Verhoeven ที่คุมจังหวะหนังได้อัศจรรย์มาก แน่นอนที่สุด Isabelle Huppert นักแสดงหญิงชาวฝรั่งเศสผู้รับบท Michèle คือคนที่ต้องกราบ
ที่สุดแล้ว แม้จะเป็นหนังที่ตัวละครถูกทำร้ายและถูกคุกคามจากเพศชาย แต่ Elle ก็กลายเป็นหนังเชิดชูเพศหญิง พลังหญิง เพื่อนหญิงอย่างงดงาม โดยเฉพาะเมื่อฉากสุดท้ายมาถึง และคงไม่มีใครกล้าตราหน้า Paul Verhoeven อีกแล้วว่า เค้าเป็นผู้กำกับที่คลั่งไคล้การย่ำยีเพศหญิง
Follow @tomactzMag