- @TOM NEWS
- Jun 2017
[REVIEW] TOMBOY
Photos : tomboy
By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
เรื่องราว Coming of Age ของเด็กน้อยทอมบอยในช่วงวันหยุดปิดเทอม กับสังคมเพื่อนใหม่ๆ เมื่อครอบครัวย้ายมาอยู่ในชุมชนใหม่ และมันก็เป็นโอกาสให้เค้าได้เป็นเด็กผู้ชายอย่างที่อยากเป็น ด้วยการสวมรอยตามความเข้าใจของใครๆ ไปว่า เค้าคือ ด.ช. Mickäel ไม่ใช่ ด.ญ. Laure แต่ทุกอย่างก็ยิ่งยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกินกว่าที่เด็กวัย 10 ขวบอย่างเค้าจะสามารถควบคุมได้
Tomboy ทำให้เรามองเห็นตัวเองในวัยเด็ก การเป็นคนที่แปลกแยกแตกต่าง ความต้องการเป็นที่ยอมรับ ความเปลี่ยวเหงา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เด็ก LGBT สักคนได้ค้นพบตัวเอง และตกตะกอนภายในแล้ว แต่ไม่รู้จะจัดการกับปัจจัยภายนอกและสังคมรอบข้างอย่างไร ขณะเดียวกัน เราก็เชื่อว่า คนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม LGBT ก็น่าจะมองเห็นตัวตนในวัยเด็กของตนเองผ่าน Tomboy ด้วยเช่นกัน ทั้งเรื่องราวของมิตรภาพ ความลับ การทำผิด การยอมรับและการแก้ปัญหาที่บางครั้งมันก็ต้องพึ่งพามือของคนเป็นพ่อเป็นแม่มาช่วยเหลือ สิ่งที่ต้องชื่นชม Tomboy มากก็คือ การนำเสนอภาพสังคมเด็กอย่างจริงใจ ไม่มีการตัดสินหรือตั้งใจสั่งสอนแบบเทศนาสอนธรรม และไม่ได้มองด้วยสายตาผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมามากกว่าหรืออยู่เหนือกว่า การแก้ปัญหาของเด็กๆ ในช่วงท้ายมันดูจริง มีวุฒิภาวะ (แบบเด็กๆ) ซึ่งน่าชื่นชม และสะเทือนใจไปพร้อมกัน
Zoé Héran แบกรับหนังทั้งเรื่องไว้บนบ่าอย่างงดงาม ทุกการเคลื่อนไหว ทุกคำพูด รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความนิ่งเงียบ การเขินอาย หยดน้ำตาจากความอึดอัดคับข้องใจ ทุกวินาทีของ Laure / Mickäel ถูก Zoé Héran ถ่ายทอดออกมาจากหัวใจ นี่คือเด็กทอมบอย (และมีแววเป็นทรานส์) ที่ก้าวผ่านความเจ็บปวด และเราเชื่อว่าเค้าจะเติบโตขึ้นด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง
ป.ล. Tomboy คว้ารางวัล Teddy Jury Award (ซึ่งมอบให้กับหนังที่มีประเด็น LGBT โดยเฉพาะ) จากเทศกาลหนังเบอร์ลินปี 2011
By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
เรื่องราว Coming of Age ของเด็กน้อยทอมบอยในช่วงวันหยุดปิดเทอม กับสังคมเพื่อนใหม่ๆ เมื่อครอบครัวย้ายมาอยู่ในชุมชนใหม่ และมันก็เป็นโอกาสให้เค้าได้เป็นเด็กผู้ชายอย่างที่อยากเป็น ด้วยการสวมรอยตามความเข้าใจของใครๆ ไปว่า เค้าคือ ด.ช. Mickäel ไม่ใช่ ด.ญ. Laure แต่ทุกอย่างก็ยิ่งยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกินกว่าที่เด็กวัย 10 ขวบอย่างเค้าจะสามารถควบคุมได้
Tomboy ทำให้เรามองเห็นตัวเองในวัยเด็ก การเป็นคนที่แปลกแยกแตกต่าง ความต้องการเป็นที่ยอมรับ ความเปลี่ยวเหงา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เด็ก LGBT สักคนได้ค้นพบตัวเอง และตกตะกอนภายในแล้ว แต่ไม่รู้จะจัดการกับปัจจัยภายนอกและสังคมรอบข้างอย่างไร ขณะเดียวกัน เราก็เชื่อว่า คนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม LGBT ก็น่าจะมองเห็นตัวตนในวัยเด็กของตนเองผ่าน Tomboy ด้วยเช่นกัน ทั้งเรื่องราวของมิตรภาพ ความลับ การทำผิด การยอมรับและการแก้ปัญหาที่บางครั้งมันก็ต้องพึ่งพามือของคนเป็นพ่อเป็นแม่มาช่วยเหลือ สิ่งที่ต้องชื่นชม Tomboy มากก็คือ การนำเสนอภาพสังคมเด็กอย่างจริงใจ ไม่มีการตัดสินหรือตั้งใจสั่งสอนแบบเทศนาสอนธรรม และไม่ได้มองด้วยสายตาผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมามากกว่าหรืออยู่เหนือกว่า การแก้ปัญหาของเด็กๆ ในช่วงท้ายมันดูจริง มีวุฒิภาวะ (แบบเด็กๆ) ซึ่งน่าชื่นชม และสะเทือนใจไปพร้อมกัน
Zoé Héran แบกรับหนังทั้งเรื่องไว้บนบ่าอย่างงดงาม ทุกการเคลื่อนไหว ทุกคำพูด รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความนิ่งเงียบ การเขินอาย หยดน้ำตาจากความอึดอัดคับข้องใจ ทุกวินาทีของ Laure / Mickäel ถูก Zoé Héran ถ่ายทอดออกมาจากหัวใจ นี่คือเด็กทอมบอย (และมีแววเป็นทรานส์) ที่ก้าวผ่านความเจ็บปวด และเราเชื่อว่าเค้าจะเติบโตขึ้นด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง
ป.ล. Tomboy คว้ารางวัล Teddy Jury Award (ซึ่งมอบให้กับหนังที่มีประเด็น LGBT โดยเฉพาะ) จากเทศกาลหนังเบอร์ลินปี 2011