• @TOM NEWS
  • Dec 2023

Only Friends เพื่อนต้องห้าม มากกว่าความแรงคือประเด็นและคุณภาพ

By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
สิ่งแรกที่ดึงดูดให้เราสนใจ “Only Friends เพื่อนต้องห้าม” ก็คือการเป็นซีรีส์ว่าด้วยความสัมพันธ์อันซับซ้อนยุ่งเหยิงอีรุงตุงนัง และการวางสถานะเป็นซีรีส์ที่จะเล่นกับเรื่องเซ็กส์+ความสัมพันธ์ ที่มีฉากแรงๆ (ซึ่งเราก็อยากรู้แหละว่า มันจะไปได้ไกลแค่ไหนในความเป็นซีรีส์จากค่าย GMMTV) แล้วแค่ EP แรกเราก็ติดหนึบหนับกับเส้นเรื่อง เสน่ห์และมิติของตัวละคร แล้วขอปรบมือให้กับการวางหมากวางฉากให้คนดูได้กรี๊ดได้เฮกันทุกเบรก (รู้เลยว่า X หรือทวิตจะเดือดแค่ไหนตอนเจอฉากเลิฟซีนแรกของ “มิว” กับ “ท็อป” ที่ลงเอยด้วยการกินไอติม แล้วต่อด้วยฉากเดือดๆ ของ “บอสตัน” ที่ตัดสลับกับฉาก “นิค” ช่วยตัวเอง แล้วถ้าคิดว่าสองผู้กำกับ “นินิว - ภิญญา จู่คำศรี” กับ “โจโจ้ - ทิชากร ภูเขาทอง” จะหมดมุกก็คิดผิดถนัด เพราะมันมีอะไรเซอร์ไพรส์และทำให้เราทึ่งอยู่ตลอดจนจบ 12 EP เลย

เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนในรั้วมหา’ลัย ที่ตัดสินใจทำโปรเจ็กต์จบร่วมกัน ด้วยการเอาบ้านหลังเก่าของเพื่อนคนหนึ่งมาเปิดเป็นโฮสเทล แต่แล้ว เมื่อ ท็อป เพื่อนนอกคณะที่ถูกดึงมาช่วยงาน ก้าวเข้ามาในกลุ่มแก๊งนี้ อะไรๆ ก็เปลี่ยนไป เพราะท็อป (ซึ่งเป็นตัวท็อป แบบปลาหมึกแถวบน สมชื่อ) ตั้งหน้าตั้งตาจีบมิว (หนุ่มเนิร์ดประจำกลุ่ม) อย่างออกหน้าออกตา จนทำให้ “เรย์” เพื่อนซี้ของมิวที่แอบรักมิวมาตลอด มีอาการหงุดหงิด ส่วนบอสตันก็อยู่ในโหมดหวงก้าง เพราะเคยมีอะไรกับท็อปมาก่อน ในขณะที่ “เชื่อม” สาวเลสเบี้ยนคนเดียวของกลุ่มก็ไมได้รู้ตัวเลยว่า แก๊งเพื่อนของตัวเองกำลังสั่นคลอน

Only Friends trailer | ~BL•Drama~ Amino

จริงๆ แล้วซีรีส์แบ่งตัวละครกับความสัมพันธ์หลักๆ ออกเป็น 3 คู่ (โดยอาจจะมีการเกี่ยวกระหวัดกันไปมาในบาง EP) แล้วความเก่งกาจของตัวบท ผู้กำกับ นักแสดง ก็ทำให้เราอินจัดกับทุกคู่เลย สำหรับ #ท็อปมิว เริ่มต้นจากความพยายามเอาชนะกันไปมา ตัดสินใจลงเอยคบกัน แต่แล้วความผิดที่ท็อปทำไว้ก็กลับมากลายเป็นบาดแผลในความสัมพันธ์ จนทำให้มิวมีอาการเป๋ไป๋ แล้วต้องมาตัดสินใจอีกครั้งว่า จะให้อภัยกับความผิดของท็อปแล้วก้าวต่อไปด้วยกันหรือเปล่า ชอบช่วงเวลาของการค่อยๆ กลับมาคบกันของคู่นี้มาก แล้วนอกจากเคมีที่ “ฟอส - จิรัชพงศ์ ศรีแสง” กับ “บุ๊ค - กษิดิ์เดช ปลูกผล” มีต่อกันจะดีมากๆ แล้ว เรายังชอบที่ตัวละครคู่นี้มีพัฒนาการแบบแทบจะพลิกกลับขั้วเลย โดยเฉพาะกับตัวละครมิว ที่เปิดโหมดแก้แค้นแล้วเดือดมาก
 
เรื่องย่อ Only Friends เพื่อนต้องห้าม ซีรีส์ช่อง GMM25

#แซนเรย์ ถึงความสัมพันธ์ของคู่นี้จะเต็มไปด้วยความยากลำบากหนักหน่วง ทั้งความแตกต่างของสถานะทางสังคม-วิถีชีวิต การอยู่ในสถานะตัวสำรองของตายของ “แซน” สภาพจิตใจอันไม่มั่นคงและอาการติดเหล้าของเรย์ จนหลายช่วงหลายตอนมันอยู่ในระดับ Toxic Relationship ด้วยซ้ำ แต่ด้วยเคมีอันเข้มข้นของตัวละครและนักแสดงมันทำให้เราเอาใจช่วยพวกเค้าอยู่ตลอด “เฟิร์ส - คณพันธ์ ปุ้ยตระกูล” ในบทแซนคือเท่มาก ในความแข็งแกร่งมีความเปราะบาง แล้วมันก็ประกบเข้าคู่กับความแข็งกร้าวแต่อ่อนแอของตัวละครเรย์ที่ “ข้าวตัง - ธนวัฒน์ รัตนกิจไพศาล” รับผิดชอบได้ดี แล้วมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะที่ตัวละครที่เต็มไปด้วยตำหนิและความไม่สมบูรณ์พร้อมอย่างเรย์จะทำให้คนดูรักได้แบบนี้ โน้ตไว้ด้วยว่า ฉากระเบิดอารมณ์ทั้งหลายแหล่ของเรย์มันควรจะเป็นเช่นนี้แหละ ก็ตัวละครมันเป็นคนแบบนี้อ่ะ
 
มาร์ค" ยอมรับความสัมพันธ์แบบ Friend With Benefits กับ "นีโอ" Only Friends  เพื่อนต้องห้าม

#บอสตันนิค เป็นอีกคู่ที่ความสัมพันธ์มันขึ้นลงแบบรถไฟเหาะ จากความสัมพันธ์ที่ขับเคลื่อนไปด้วยเซ็กส์ สู่การแตกร้าวเพราะความไว้ใจ แล้วการกลับมาเห็นคุณค่าของอีกฝ่ายจนขอเริ่มใหม่ ก่อนที่มันจะจบลงแบบที่ไม่มีใครคาดคิด แต่คนดูอย่างเราก็ลุกขึ้นปรบมือให้กับการตัดสินใจของนิคแบบดังสนั่น การสร้างตัวละครของ “มาร์ค - ภาคิน คุณาอนุวิทย์” และ “นีโอ - ตรัย นิ่มทวัฒน์” ดีงามมากๆ โปรดส่งบทดีๆ ที่ท้าทายความสามารถทางการแสดงให้น้องๆ อีกเยอะๆ เถอะ เราเชื่อว่าน้องทำได้ เพราะในเรื่องนี้น้องทำได้ดีทุกซีน!

ไหนๆ ก็ชื่นชมการแสดงของนักแสดงหลายๆ คนแล้ว ขอเขียนถึง “ลูกจัน - ภาสิดี เพชรสุธี” ในบทน้ำเชื่อม เพื่อนเลสฯ ของกลุ่มด้วย ชอบเคมีของการมีสตรีนางนี้ในกลุ่มมากๆ แล้วน้ำเชื่อมก็เป็นคนเชื่อมทุกคนเข้าไว้ด้วยกันได้ดีจริงๆ และที่สุดของที่สุด “ม่อน - ธนัชชัย วิจิตรวงศ์ทอง” กับการปรากฏตัวของ “โบอิ้ง” แฟนเก่าของท็อปและของแซน ที่ทำให้ความสัมพันธ์ของทุกคู่ปั่นป่วน ชอบการสร้างคาแร็คเตอร์นี้มาก ขอยืนยันว่ามีเกย์ที่มีตัวตนแบบนี้อยู่จริง!

ชอบยิ่งกว่ากับไดอะล็อกต่างๆ ที่ตัวละครพูดคุยกัน มันผสมผเสกันระหว่างการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาด้วยความจริงใจ กับการเล่นเกมด้วยชั้นเชิง พูดอย่างคิดอีกอย่าง พูดแบบนี้เพื่อฟาด เพื่อเอาชนะ เพื่อผลประโยชน์ โอ๊ย คิดแทนนักแสดงเลยว่า เล่นกันสนุกเพราะบทที่ต้องพูดมันคมมันขยี้ดีแน่ๆ เช่นเดียวกัน การเลือกเพลงประกอบซีรีส์ของผู้กำกับอย่างโจโจ้นั้นเชื่อมือได้เสมอ ทุกแทร็กดีงามมาก นอกจากเพลงสากลที่ดนตรีและเนื้อหาสอดรับกับเรื่องแล้ว การเลือกเพลงไทยยุคเก่าก่อน และเพลงอินดี้มาใช้ในซีรีส์ด้วยก็ดีมาก – ตามดูรีแอ็คของชาวต่างชาติทุกคนพูดหมดว่า ซาวด์แทร็กดีมาก!

สำคัญที่สุด และได้มีโอกาสชมกับตัวผู้กำกับด้วยตัวเองไปแล้ว ก็คือ ในเซ็กส์ซีนที่เราเคยคิดว่า ใส่มาเพื่อความแรง เพื่อเอากระแส สุดท้ายเซ็กส์ซีนทุกฉากได้กลับมาใช้ประโยชน์ หรือเป็นส่วนสำคัญของการเล่าเรื่องหมดเลย ทุกอย่างมันถูกคิดมาแล้ว และมีผลต่อเรื่อง ไม่ใช่ใส่มาเพื่อความสะใจหรือ “ขาย” กันเฉยๆ (ทำไมต้องมีฉากบอสตันมีเซ็กส์กับแก็ป - เด็กวิศวะที่วนกลับมาเล่าอีกครั้งว่า มันกลายเป็นปมเรื่องถูกอแอบถ่ายคลิป, ทำไมต้องมีฉากบอสตันกับท็อปมีเซ็กส์กันบนรถ ก็เพื่อจะใช้ประโยชน์จากคลิปเสียงในการสร้างการแตกหักรุนแรงของความสัมพันธ์ไง) ไปจนถึงเหตุผลของความแรงในแต่ละฉากด้วย เออ ตรงนี้ดีมาก!

ยังมีอีกหลายส่วนที่เราชอบ การนำเสนอเรื่องการใช้ยาเสพติดของท็อป การติดเหล้าและการบำบัดของเรย์ ปัญหาสุขภาพจิตของเรย์ (อีกแล้ว) การยินยอมในการทำสิ่งต่างๆ (Consent) ที่มิวมักจะพูดเสมอ ไปจนถึงการย้ำถึงสิ่งสำคัญของความสัมพันธ์ ทั้งในแง่ของเพื่อนและคนรัก นั่นก็คือความไว้ใจ และความจริงใจ

สำหรับตัวเราเอง เราแทนตัวเองลงในแต่ละตัวละครได้หมดเลย เราเคยผ่านความผิดหวังเจ็บช้ำแล้วเติบโตขึ้นด้วยการให้อภัยคนรักแบบมิว, เป็นคนที่เคยทำผิดพลาดแล้วอยากทำให้ตัวเองดีขึ้นในทุกวันแบบท็อป, เคยบ้าคลั่งแบบเรย์, เคยเป็นของตายแบบแซน, เคยงี่เง่าปล่อยให้ตัวเองเจ็บแบบนิค แล้วก็เคยไร้หัวใจแบบบอสตันด้วย อ่อ ถ้าจะไม่เคยเป็น ก็คงไม่เคยเป็นตัวละครแบบโบอิ้งนี่แหละ เกินไป! แล้วคุณล่ะ มองเห็นตัวเองเป็นใครในตัวละครไหนกัน?