- @TOM NEWS
- Jun 2022
Life After Death with Tyler Henry สารคดีชีวิตร่างทรงผู้ติดต่อกับโลกหลังความตายได้
By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
เป็นส่วนผสมแปลกประหลาดที่ทำให้เราอุทานออกมาว่า “สนุกจังเลยโว้ย” นี่คือสารคดีตามติดชีวิตจริงของ Tyler Henry ผู้มีอาชีพเป็นร่างทรงผู้สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ ซึ่งโปรดิวเซอร์ของสารคดีจะตั้งโจทย์เลือกคนที่ต้องการติดต่อกับคนที่ตายไปแล้วมาทดสอบ Tyler ว่าเค้าเป็นตัวจริงมีญาณทิพย์หรือไก่กาในแต่ละ EP จนทำให้มันมีบรรยากาศคล้ายๆ กับ Queer Eye ในการช่วยเหลือผู้คนที่ยังมีอะไรติดค้างในใจให้ได้รับการปลดปล่อยและมีความสุขกับชีวิตที่เหลืออยู่ แล้วมันยังคล้ายกับการไขคดีปริศนาว่าเคสที่ Tyler จะพบเจอนั้นมีเบื้องลึกเบื้องหลังยังไง เป็นคดีฆาตกรรม เป็นคนในครอบครัวที่ตายจากโรคภัย หรือมีเรื่องอะไรสะเทือนใจมากแค่ไหน ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องราวในสารคดียังถูกปกคลุมด้วยปริศนาชุดใหญ่ที่โปรยมาตั้งแต่ EP แรกๆ ว่า แม่ของ Tyler ถูกเลี้ยงดูมาโดยอาชญากร/ฆาตกรที่โกหกมาตลอดว่าเป็นแม่ของเธอ แล้วแม่ตัวจริงของเธอคือใครกันล่ะ?
จริงอยู่ เราเริ่มต้นดู Life After Death with Tyler Henry ด้วยความรู้สึกเคลือบแคลงสงสัย แต่เมื่อ Tyler ได้เริ่มติดต่อกับโลกหลังความตายให้เราเห็นแค่ 1 – 2 เคส เราก็เชื่อในความสามารถของเค้าโดยปราศจากข้อสงสัยใดๆ อีก สิ่งที่ Tyler ทำไม่ใช่แค่การพูดกว้างๆ ทายไปสุ่มๆ เดาๆ แต่มันเฉพาะเจาะจงถึงเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตที่มีแค่คนตรงหน้ากับวิญญาณที่จากไปเท่านั้นรับรู้ร่วมกัน หรือบางคราวเค้าก็พูดชื่อของดวงวิญญาณที่พยายามติดต่อกับเค้าได้เลยด้วยซ้ำ ชอบมากๆ ด้วยที่วิธีการในการติดต่อสื่อสาร (หรืออาจจะเป็นการทำสมาธิของตัว Tyler) ในระหว่างการเชื่อมต่อกับโลกอีกใบก็คือการวาดเส้นไปมาบนสมุดบันทึกส่วนตัวของเค้า จนมันออกมาดูคล้ายงานศิลปะลายเส้นแปลกประหลาด แล้วที่ชอบมากที่สุดก็คือ ความมุ่งมั่นตั้งใจของ Tyler คือการส่งพลังบวกไปให้คนตรงหน้า เอาข้อความดีๆ มาถ่ายทอดเพื่อปลดล็อกสิ่งที่พวกเค้ายังติดค้าง รู้สึกผิด หรืออยากบอกลา ยิ่งเวลาผ่านไป เราก็ยิ่งรัก Tyler มากขึ้นเรื่อยๆ นี่คือคนส่งพลังบวกที่หาได้ยากเหลือเกินในยุคนี้
อันที่จริงชีวิตของ Tyler ก็ไม่ง่ายเลย การเติบโตมาด้วยพลังพิเศษที่เค้าต้องเรียนรู้ที่จะรับมือ บวกผสมเข้าไปกับความเป็นเกย์ของตัวเอง ทำให้วัยเด็กของ Tyler ถูกกลั่นแกล้งและรู้สึกแปลกแยกเสมอ หรือเมื่อเติบโตมาแล้ว แม้จะมีความรักที่ดี (แฟนหนุ่มของ Tyler น่ารักมาก) แต่เค้าก็ยังต้องเผชิญหน้ากับปมเรื่องครอบครัวของตัวเองอีก ถึงแม้ว่าเค้าจะมีแม่ที่รัก สนับสนุนและเข้าใจเค้าดี แต่การต้องเติบโตมาโดยมี (คนที่เคยเข้าใจว่าเป็น) “ยาย” เป็นคนโหดร้าย เย็นชา และมีป้ายแปะว่าเป็นฆาตกรก็ไม่ง่ายเลย แล้วพลังวิเศษของเค้าก็ไม่สามารถช่วยได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องสุขภาพที่ทำท่าจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแม้แต่เค้าเองก็สงสัยว่ามันอาจจะเป็นเพราะการเชื่อมต่อกับโลกวิญญาณหรือเปล่า
เราอาจจะเหมือนกับตัว Tyler แหละ คือพอมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเกย์ หรือ LGBTQ+ เราก็พร้อมจะรักแล้ว ดังนั้น นอกจากเราจะรักในตัว Tyler มากๆ แล้ว เคสที่เราชอบมากที่สุดในการเชื่อมต่อกับโลกหลังความตายของ Tyler ก็คือ เคสของเกย์ผิวสีที่อยากติดต่อสื่อสารกับพ่อที่ตายจากไปของตัวเองว่า พ่อโอเคไหมที่มีลูกเป็นเกย์ พ่อผิดหวังหรือเปล่า กับเคสที่ทำให้น้ำตาแตกสติกระเจิงพอๆ กับตัว Tyler ที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับวิญญาณได้จนจบเพราะความอ่อนไหวของอารมณ์ก็คือ เคสของเกย์หนุ่มที่ได้ติดต่อสื่อสารกับอดีตคนรักที่ตายจากไปเพราะอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ทั้งที่เพิ่งนอนคุยกันอยู่ข้างๆ ด้วยประโยคง่ายๆ ว่า “ฉันรู้สึกเหมือนจะมีอะไรมารับฉันไปเลยล่ะ...” แล้วเค้าก็เสียชีวิตตรงนั้นข้างๆ แฟนหนุ่มของตัวเองเลย ใช่! Life After Death with Tyler Henry ทำให้เรามองเห็นคุณค่าของชีวิต การมีชีวิตอยู่ การสื่อสารพูดคุยกับคนรอบๆ ตัวด้วยความปรารถนาดี เพราะเราคงไม่มีญาณวิเศษจะพูดคุยกับพวกเค้าได้หรอกเมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว
รับชม Life After Death with Tyler Henry ได้ทาง Netflix
เป็นส่วนผสมแปลกประหลาดที่ทำให้เราอุทานออกมาว่า “สนุกจังเลยโว้ย” นี่คือสารคดีตามติดชีวิตจริงของ Tyler Henry ผู้มีอาชีพเป็นร่างทรงผู้สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ ซึ่งโปรดิวเซอร์ของสารคดีจะตั้งโจทย์เลือกคนที่ต้องการติดต่อกับคนที่ตายไปแล้วมาทดสอบ Tyler ว่าเค้าเป็นตัวจริงมีญาณทิพย์หรือไก่กาในแต่ละ EP จนทำให้มันมีบรรยากาศคล้ายๆ กับ Queer Eye ในการช่วยเหลือผู้คนที่ยังมีอะไรติดค้างในใจให้ได้รับการปลดปล่อยและมีความสุขกับชีวิตที่เหลืออยู่ แล้วมันยังคล้ายกับการไขคดีปริศนาว่าเคสที่ Tyler จะพบเจอนั้นมีเบื้องลึกเบื้องหลังยังไง เป็นคดีฆาตกรรม เป็นคนในครอบครัวที่ตายจากโรคภัย หรือมีเรื่องอะไรสะเทือนใจมากแค่ไหน ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องราวในสารคดียังถูกปกคลุมด้วยปริศนาชุดใหญ่ที่โปรยมาตั้งแต่ EP แรกๆ ว่า แม่ของ Tyler ถูกเลี้ยงดูมาโดยอาชญากร/ฆาตกรที่โกหกมาตลอดว่าเป็นแม่ของเธอ แล้วแม่ตัวจริงของเธอคือใครกันล่ะ?
จริงอยู่ เราเริ่มต้นดู Life After Death with Tyler Henry ด้วยความรู้สึกเคลือบแคลงสงสัย แต่เมื่อ Tyler ได้เริ่มติดต่อกับโลกหลังความตายให้เราเห็นแค่ 1 – 2 เคส เราก็เชื่อในความสามารถของเค้าโดยปราศจากข้อสงสัยใดๆ อีก สิ่งที่ Tyler ทำไม่ใช่แค่การพูดกว้างๆ ทายไปสุ่มๆ เดาๆ แต่มันเฉพาะเจาะจงถึงเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตที่มีแค่คนตรงหน้ากับวิญญาณที่จากไปเท่านั้นรับรู้ร่วมกัน หรือบางคราวเค้าก็พูดชื่อของดวงวิญญาณที่พยายามติดต่อกับเค้าได้เลยด้วยซ้ำ ชอบมากๆ ด้วยที่วิธีการในการติดต่อสื่อสาร (หรืออาจจะเป็นการทำสมาธิของตัว Tyler) ในระหว่างการเชื่อมต่อกับโลกอีกใบก็คือการวาดเส้นไปมาบนสมุดบันทึกส่วนตัวของเค้า จนมันออกมาดูคล้ายงานศิลปะลายเส้นแปลกประหลาด แล้วที่ชอบมากที่สุดก็คือ ความมุ่งมั่นตั้งใจของ Tyler คือการส่งพลังบวกไปให้คนตรงหน้า เอาข้อความดีๆ มาถ่ายทอดเพื่อปลดล็อกสิ่งที่พวกเค้ายังติดค้าง รู้สึกผิด หรืออยากบอกลา ยิ่งเวลาผ่านไป เราก็ยิ่งรัก Tyler มากขึ้นเรื่อยๆ นี่คือคนส่งพลังบวกที่หาได้ยากเหลือเกินในยุคนี้
อันที่จริงชีวิตของ Tyler ก็ไม่ง่ายเลย การเติบโตมาด้วยพลังพิเศษที่เค้าต้องเรียนรู้ที่จะรับมือ บวกผสมเข้าไปกับความเป็นเกย์ของตัวเอง ทำให้วัยเด็กของ Tyler ถูกกลั่นแกล้งและรู้สึกแปลกแยกเสมอ หรือเมื่อเติบโตมาแล้ว แม้จะมีความรักที่ดี (แฟนหนุ่มของ Tyler น่ารักมาก) แต่เค้าก็ยังต้องเผชิญหน้ากับปมเรื่องครอบครัวของตัวเองอีก ถึงแม้ว่าเค้าจะมีแม่ที่รัก สนับสนุนและเข้าใจเค้าดี แต่การต้องเติบโตมาโดยมี (คนที่เคยเข้าใจว่าเป็น) “ยาย” เป็นคนโหดร้าย เย็นชา และมีป้ายแปะว่าเป็นฆาตกรก็ไม่ง่ายเลย แล้วพลังวิเศษของเค้าก็ไม่สามารถช่วยได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องสุขภาพที่ทำท่าจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแม้แต่เค้าเองก็สงสัยว่ามันอาจจะเป็นเพราะการเชื่อมต่อกับโลกวิญญาณหรือเปล่า
เราอาจจะเหมือนกับตัว Tyler แหละ คือพอมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเกย์ หรือ LGBTQ+ เราก็พร้อมจะรักแล้ว ดังนั้น นอกจากเราจะรักในตัว Tyler มากๆ แล้ว เคสที่เราชอบมากที่สุดในการเชื่อมต่อกับโลกหลังความตายของ Tyler ก็คือ เคสของเกย์ผิวสีที่อยากติดต่อสื่อสารกับพ่อที่ตายจากไปของตัวเองว่า พ่อโอเคไหมที่มีลูกเป็นเกย์ พ่อผิดหวังหรือเปล่า กับเคสที่ทำให้น้ำตาแตกสติกระเจิงพอๆ กับตัว Tyler ที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับวิญญาณได้จนจบเพราะความอ่อนไหวของอารมณ์ก็คือ เคสของเกย์หนุ่มที่ได้ติดต่อสื่อสารกับอดีตคนรักที่ตายจากไปเพราะอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ทั้งที่เพิ่งนอนคุยกันอยู่ข้างๆ ด้วยประโยคง่ายๆ ว่า “ฉันรู้สึกเหมือนจะมีอะไรมารับฉันไปเลยล่ะ...” แล้วเค้าก็เสียชีวิตตรงนั้นข้างๆ แฟนหนุ่มของตัวเองเลย ใช่! Life After Death with Tyler Henry ทำให้เรามองเห็นคุณค่าของชีวิต การมีชีวิตอยู่ การสื่อสารพูดคุยกับคนรอบๆ ตัวด้วยความปรารถนาดี เพราะเราคงไม่มีญาณวิเศษจะพูดคุยกับพวกเค้าได้หรอกเมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว
รับชม Life After Death with Tyler Henry ได้ทาง Netflix