- @TOM NEWS
- Nov 2020
Happy Together ความทรงจำกับรักพังๆ
By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
พบว่าไม่ได้รู้สึกเศร้าและหดหู่ใจมากเท่ากับครั้งแรกๆ ที่ได้ดูเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ตรงกันข้าม เมื่อดูถึงตอนจบของ Happy Together ในครั้งนี้ เรากลับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกดีๆ ของการก้าวเดินต่อไป โดยทิ้งความทุกข์ความเศร้าจากความสัมพันธ์พังๆ ไว้เป็นความทรงจำ แถมระหว่างทางเรายังพบรายละเอียดเล็กๆ ในความสัมพันธ์ระหว่าง “ไหลเยี่ยฟา” และ “โหเป่าหวัง” ที่ทำให้เราหัวเราะและรู้สึกอบอุ่นใจกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ
Happy Together เล่าถึงความสัมพันธ์รักๆ เลิกๆ ของคู่รักเกย์ที่เดินทางออกจากฮ่องกงมาอาร์เจนติน่า พร้อมกับความหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่าและจะได้เดินทางไปดูน้ำตกอีกวาซูด้วยกัน ทว่าชีวิตมันไม่ง่ายดายแบบนั้น และความสัมพันธ์ของคนสองคนมันก็ไม่ง่ายด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายหนึ่งคือ โหเป่าหวัง เกย์หนุ่มผู้เอาแต่ใจ ร้ายกาจ แต่ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ อย่างคนที่รู้ดีว่าจะเอาชนะใจอีกฝ่ายได้อย่างไร
ช่วยไม่ได้ที่เราจะย้อนคิดถึงความรักความสัมพันธ์ของตัวเอง ทั้งในช่วงวัยที่เรายังทำตัวแบบเดียวกับโหเป่าหวัง ความรู้สึกดีและโคตรจะอุ่นใจที่ได้รู้ว่าถึงอย่างไรก็ยังมีไหล่ของอีกคนให้พักพิงได้เสมอนี่มันช่างวิเศษจริงๆ นะ เช่นเดียวกัน ในอีกความสัมพันธ์ต่อมาที่เรากลายเป็นไหลเยี่ยฟาที่ต้องคอยโอบกอดดูแลและให้อภัยอีกฝ่ายเสมอ มันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเลย ขอแค่เรายังมีเค้าอยู่ข้างๆ ต่อไปก็พอ แต่ที่สุดแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเราถึงที่สุดแล้ว ก็เป็นเค้าเองนั่นแหละที่เดินจากไป
ลายเซ็นของหว่องกาไวยังชัดเจน นอกจากงานด้านภาพ การตัดต่อ การเล่าเรื่องแบบที่เราต้องปะติดปะต่อ และอ่านตัวละครจากสิ่งที่เห็นด้วยตัวเองแล้ว ยังมีรายละเอียดของความเหงาแต่เท่ ที่ถึงแม้เหมือนหว่องกาไวจะพูดเรื่องเดิมๆ และโอเวอร์เกินจริงแค่ไหน แต่มันก็ส่งผลรุนแรงต่อคนที่ผ่านประสบการณ์มาได้เสมอ อย่างรอบนี้ก็คือการเอาอัดเสียงความเศร้าไปทิ้งที่สุดขอบโลกนั่นไงเล่า
Happy Together เป็นหนังที่มีความทรงจำอะไรมากมายของตัวเราทาบทับอยู่กับตัวหนัง ช่วงวัยแห่งความสับสนและการเรียนรู้เรื่องความรักความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายกับผู้ชายที่เราไม่รู้จะไปเรียนรู้จากพื้นที่ตรงไหน ไปจนถึงการได้เห็นนักแสดงที่เราชื่นชมมาตั้งแต่เด็กรับบทเป็นเกย์มันเป็นเรื่องที่มีคุณค่าต่อจิตใจเรามากนะ “เหลียงเฉาเหว่ย” ในบทไหลเยี่ยฟา โคตรจะเป็นผู้ชายในฝันเลย แล้วเราก็เสียน้ำตาให้กับเค้าอีกครั้งกับฉากอัดเสียงใส่เครื่องเล่นเทปคาสเซ็ตนั่น “เลสลี่จาง” ในบทโหเป่าหวัง ก็ร้ายแสนร้าย แต่ก็เปราะบางแตกสลายง่ายดายเหลือเกิน
ถ้าเป็นตอนที่เด็กกว่านี้ เราคงคิดฝันถึงวันที่ไหลเยี่ยฟาและโหเป่าหวังกลับมาเจอกันอีกครั้ง (ไม่รู้ทำไม เราถึงเคยคิดเสมอว่า คู่รักที่เลิกรากันไปแล้วได้กลับมาเริ่มต้นคบกันอีกครั้งนั้นคือความโรแมนติกแสนโรแมนติก) แต่ในวันนี้ เราเชื่อว่า ถ้ามันจะเวิร์กมันจะเวิร์กตั้งแต่ต้น และถ้ามันไม่ใช่ ยังไงก็ไม่ใช่ ดังนั้น เราจึงคิดภาพที่ไหลเยี่ยฟาจะได้พบเจอกับอาเจิน หนุ่มรุ่นน้องจากไทเปอีกครั้งมากกว่า (ลืมไปแล้วว่า Happy Together พูดถึงประเด็นการส่งคืนเกาะฮ่องกงตรงไปตรงมาแบบนี้ แล้วก็จำไม่ได้เลยว่า มีฉากตัวละครเดินทางไปไทเปด้วย และการได้เห็นไทเปในยุค 90 มันก็ชวนให้คิดถึงไทเปมากมายจริงๆ นะ)
Happy Together ฉบับบูรณะภาพและเสียงคมชัดระดับ 4K เข้าฉายให้ชมกันในโรงภาพยนตร์แล้ววันนี้
พบว่าไม่ได้รู้สึกเศร้าและหดหู่ใจมากเท่ากับครั้งแรกๆ ที่ได้ดูเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ตรงกันข้าม เมื่อดูถึงตอนจบของ Happy Together ในครั้งนี้ เรากลับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกดีๆ ของการก้าวเดินต่อไป โดยทิ้งความทุกข์ความเศร้าจากความสัมพันธ์พังๆ ไว้เป็นความทรงจำ แถมระหว่างทางเรายังพบรายละเอียดเล็กๆ ในความสัมพันธ์ระหว่าง “ไหลเยี่ยฟา” และ “โหเป่าหวัง” ที่ทำให้เราหัวเราะและรู้สึกอบอุ่นใจกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ
Happy Together เล่าถึงความสัมพันธ์รักๆ เลิกๆ ของคู่รักเกย์ที่เดินทางออกจากฮ่องกงมาอาร์เจนติน่า พร้อมกับความหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่าและจะได้เดินทางไปดูน้ำตกอีกวาซูด้วยกัน ทว่าชีวิตมันไม่ง่ายดายแบบนั้น และความสัมพันธ์ของคนสองคนมันก็ไม่ง่ายด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายหนึ่งคือ โหเป่าหวัง เกย์หนุ่มผู้เอาแต่ใจ ร้ายกาจ แต่ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ อย่างคนที่รู้ดีว่าจะเอาชนะใจอีกฝ่ายได้อย่างไร
ช่วยไม่ได้ที่เราจะย้อนคิดถึงความรักความสัมพันธ์ของตัวเอง ทั้งในช่วงวัยที่เรายังทำตัวแบบเดียวกับโหเป่าหวัง ความรู้สึกดีและโคตรจะอุ่นใจที่ได้รู้ว่าถึงอย่างไรก็ยังมีไหล่ของอีกคนให้พักพิงได้เสมอนี่มันช่างวิเศษจริงๆ นะ เช่นเดียวกัน ในอีกความสัมพันธ์ต่อมาที่เรากลายเป็นไหลเยี่ยฟาที่ต้องคอยโอบกอดดูแลและให้อภัยอีกฝ่ายเสมอ มันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเลย ขอแค่เรายังมีเค้าอยู่ข้างๆ ต่อไปก็พอ แต่ที่สุดแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเราถึงที่สุดแล้ว ก็เป็นเค้าเองนั่นแหละที่เดินจากไป
ลายเซ็นของหว่องกาไวยังชัดเจน นอกจากงานด้านภาพ การตัดต่อ การเล่าเรื่องแบบที่เราต้องปะติดปะต่อ และอ่านตัวละครจากสิ่งที่เห็นด้วยตัวเองแล้ว ยังมีรายละเอียดของความเหงาแต่เท่ ที่ถึงแม้เหมือนหว่องกาไวจะพูดเรื่องเดิมๆ และโอเวอร์เกินจริงแค่ไหน แต่มันก็ส่งผลรุนแรงต่อคนที่ผ่านประสบการณ์มาได้เสมอ อย่างรอบนี้ก็คือการเอาอัดเสียงความเศร้าไปทิ้งที่สุดขอบโลกนั่นไงเล่า
Happy Together เป็นหนังที่มีความทรงจำอะไรมากมายของตัวเราทาบทับอยู่กับตัวหนัง ช่วงวัยแห่งความสับสนและการเรียนรู้เรื่องความรักความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายกับผู้ชายที่เราไม่รู้จะไปเรียนรู้จากพื้นที่ตรงไหน ไปจนถึงการได้เห็นนักแสดงที่เราชื่นชมมาตั้งแต่เด็กรับบทเป็นเกย์มันเป็นเรื่องที่มีคุณค่าต่อจิตใจเรามากนะ “เหลียงเฉาเหว่ย” ในบทไหลเยี่ยฟา โคตรจะเป็นผู้ชายในฝันเลย แล้วเราก็เสียน้ำตาให้กับเค้าอีกครั้งกับฉากอัดเสียงใส่เครื่องเล่นเทปคาสเซ็ตนั่น “เลสลี่จาง” ในบทโหเป่าหวัง ก็ร้ายแสนร้าย แต่ก็เปราะบางแตกสลายง่ายดายเหลือเกิน
ถ้าเป็นตอนที่เด็กกว่านี้ เราคงคิดฝันถึงวันที่ไหลเยี่ยฟาและโหเป่าหวังกลับมาเจอกันอีกครั้ง (ไม่รู้ทำไม เราถึงเคยคิดเสมอว่า คู่รักที่เลิกรากันไปแล้วได้กลับมาเริ่มต้นคบกันอีกครั้งนั้นคือความโรแมนติกแสนโรแมนติก) แต่ในวันนี้ เราเชื่อว่า ถ้ามันจะเวิร์กมันจะเวิร์กตั้งแต่ต้น และถ้ามันไม่ใช่ ยังไงก็ไม่ใช่ ดังนั้น เราจึงคิดภาพที่ไหลเยี่ยฟาจะได้พบเจอกับอาเจิน หนุ่มรุ่นน้องจากไทเปอีกครั้งมากกว่า (ลืมไปแล้วว่า Happy Together พูดถึงประเด็นการส่งคืนเกาะฮ่องกงตรงไปตรงมาแบบนี้ แล้วก็จำไม่ได้เลยว่า มีฉากตัวละครเดินทางไปไทเปด้วย และการได้เห็นไทเปในยุค 90 มันก็ชวนให้คิดถึงไทเปมากมายจริงๆ นะ)
Happy Together ฉบับบูรณะภาพและเสียงคมชัดระดับ 4K เข้าฉายให้ชมกันในโรงภาพยนตร์แล้ววันนี้