By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
เป็น EP ที่มุ้งมิ้งน่ารักมาก และทำให้ใครหลายคนจิกหมอนกรี๊ดแตกจนลืมตัว เมื่อเราได้ย้อนกลับไปดูจุดเริ่มต้นของความรักระหว่าง “นัท” กับ “คามิน” แล้ววกกลับมาพบว่าความสัมพันธ์ระหว่าง “นัท” กับ “อาร์ม” ที่หลายคนเชียร์ให้กลับมาคบกันนั้น คงไม่ได้มีโอกาสเป็นจริงได้ในเร็วๆ นี้ ส่วน “ปอม” ก็เริ่มออกเดตกับ “พี่หนึ่ง” แล้วพาร์ตนี้ก็กลายเป็นหนังโรแมนติกคอมเมดี้น่ารักๆ ที่ #ทีมปอม ได้เฮลั่น ตามมาด้วยป้ายไฟ #ทีมพี่หนึ่ง อีกรัวๆ
 
อย่างไรก็ตาม เค้าลางความดราม่าก็ค่อยๆ ลอยมาเหมือนเมฆฝน ทั้งจากฝั่งปอมและอาร์ม ที่มีเรื่องให้ต้องพัวพันกับผู้ชายคนเดียวกัน (อีกแล้ว) ฝั่งนัทที่มีน้องชายย้ายมาอยู่ด้วย รวมถึงความลับเกี่ยวกับน้องชายที่เค้าได้ล่วงรู้ในตอนท้าย และฝั่งอ๊อฟกับบิ๊ก ที่เกย์หมี ณ ล็อกเกอร์คงไม่ได้โผล่มาแบบธรรมดาๆ แน่นอน
 
ฉากอันน่าจดจำของ EP นี้ คงอยู่ที่ฉากเดตร้านหนังสือต่อด้วยงานนวราตรีของ “ปอม & พี่หนึ่ง” ที่ทาบทับกับฉากเดตของ “อาร์ม & นัท” ในซีซั่นหนึ่งได้อย่างน่าสนใจ ฉากเดินไปคุยไปกระหนุงกระหนิงแบบนี้ มันทำให้เราคิดถึงตัวเองเหมือนกัน (เฮ้ย คนที่มีความสัมพันธ์ 10 กว่าปี มันก็ต้องการการเดตแบบนี้เหมือนกันนะ!) “เฟรม” มอบการแสดงที่เป็นธรรมชาติ และโคตรน่ารัก ไม่น่าเชื่อว่าความเนิร์ด เพ้อเจ้อ และโก๊ะกังของปอมมันจะดูน่ารักน่าชังได้ขนาดนี้ ส่วน “พี่หนุ่ม” ในบท “พี่หนึ่ง” ก็โอ๊ย ดีงาม ด้วยสายตา น้ำเสียง และจังหวะอะไรบางอย่าง นอกจากเสน่ห์ที่เพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เรายังเชื่อสนิทใจว่า เค้ารักปอมจริงๆ โดยไม่มีสิ่งใดแอบแฝง


 
อีกฉากที่ดีมากก็คือฉากอาบน้ำต่อเนื่องยาวถึงบนเตียงของ “นัท & คามิน” ที่มุ้งมิ้งบนความเรียลในแบบที่ทำให้เราเชื่อว่าเค้ามีความสัมพันธ์กันจริงๆ ทั้งการพูดเล่นหยอกล้อ ง้องอน และเปิดใจคุยกัน เรื่องน่าสนใจคือกราฟอารมณ์ในซีนนั้นมันขึ้นลงหลากหลายมาก จากความละมุนเซ็กซี่ สู่ความตึงเครียด แล้วจบลงด้วยอารมณ์หวานๆ แสนน่ารัก ก็ต้องบอกว่าเคมีระหว่าง “เต็งหนึ่ง” และ “หมอแม็ค” นั้นดีมากจริงๆ
 
เป็นอีกครั้งที่สัมผัสได้ถึงความละเอียดละออในงานเขียนบทของซีรี่ส์เรื่องนี้ นอกจากแทบทุกประโยคของตัวละครจะสามารถโค้ดมาเป็นคำคมได้แล้ว มันยังซุกซ่อนรายละเอียดชีวิต วิพากษ์วิจารณ์ทัศนคติของผู้คน และแอบเทศนาสอนธรรมเราอยู่ในที ไล่เรียงมาตั้งแต่เรื่องการตัดสินตีตราความสาวและการเป็นรับของเกย์ไทย, การยอมรับนับถือในตัวเอง, การเรียน - การทำงาน – ครอบครัว ฯลฯ แต่ที่สำคัญที่สุด มันก็คือการพูดถึง “วงวาร-วังวน” ของเกย์ไทย กับประเด็นแฟนเก่า ที่ในทุกความสัมพันธ์ เราต่างก็ครอบครองขยะโละทิ้งของใครบางคน หรือบางทีก็เราเองนั่นแหละ ที่กลายเป็นขยะ และเฝ้ารอคอยให้ใครสักคนค้นเจอ แล้ววันนั้นเราก็อาจจะได้เป็นสมบัติที่มีค่าอีกครา