By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
ถึงจะหงุดหงิดกับความอืดอาดยืดยาดของหนัง และความน่ารำคาญของตัวละคร แต่ก็ยอมรับว่า เพลงของหนังมันเพราะมากจริงๆ ไม่เสียของที่เป็นหนังที่ว่าด้วยการทำเพลงของศิลปินหน้าใหม่ แต่ก็นั่นแหละ ด้วยพล็อตที่แสนบางเบาอย่างการที่หนุ่มน้อยขี้อายได้สานสัมพันธ์กับหนุ่มเท่ที่แอบชอบมาตลอด ร่วมแต่งเพลงด้วยกัน จนนำไปสู่การปล่อยตัวปล่อยใจนั้นมันสามารถเล่าให้จบได้ใน 30 นาที โดยไม่ต้องเวิ่นเวอขนาดนี้ได้นี่นา หรือถ้าจะเล่าให้ยาวแบบนี้ ก็ช่วยทำให้เรารู้สึกสนุกกับอะไรต่างๆ ในหนังหน่อยเถอะ!

แล้วเราก็พบเจอข้อมูลว่า จริงๆ แล้วตัว Wish You นั้นถูกถ่ายทำเป็นเวอร์ชั่นซีรีส์ออกฉายตอนสั้นๆ ตอนละ 10 นาทีมาก่อน แล้วถูกเอามาตัดต่อใหม่กลายเป็นเวอร์ชั่นภาพยนตร์ความยาวเกือบ 2 ชั่วโมงแบบนี้ ซึ่งมันก็อาจจะกลายเป็นปัญหาหลักของจังหวะการเล่าเรื่อง ไปจนถึงทำให้บาดแผลต่างๆ ของพัฒนาการตัวละครขยายใหญ่โตให้เห็นชัดมากขึ้นตามไปด้วยอย่างที่เป็นอยู่

อ่ะ เล่าเรื่องย่อสักหน่อย “ซังอี” พนักงานฝึกหัดของบริษัทค่ายเพลง บังเอิญไปเจอกับ “อินซู” ศิลปินหนุ่มที่เล่นดนตรีเปิดหมวกริมถนนแล้วก็ประทับใจในทันที แต่ด้วยความเป็นคนขี้อาย เค้ากลับไม่กล้าเข้าไปทำความรู้จักกับอินซูตรงๆ ได้แต่เฝ้าติดตามผลงานของเค้าผ่านทาง YouTube เท่านั้น จนกระทั่งมีโอกาสได้นำเสนอให้อินซูมาเป็นศิลปินฝึกหัดคนใหม่ของค่ายนั่นแหละ มันจึงอาจจะเป็นโอกาสที่พวกเค้าทั้งคู่ได้รู้จักสนิทสนมกันมากขึ้น แต่ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดีไหมนะ หรือจะมีอุปสรรคอะไรรออยู่

ปัญหาใหญ่อีกประการก็คือ เราไม่รู้สึกว่าตัวละครอย่างซังอีนั้นน่าเอาใจช่วยเอาเสียเลย แล้วนักแสดงอย่าง “อีซัง” (หนึ่งในสมาชิกไอดอลวง IMFACT) ก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าตัวละครมีเสน่ห์อะไรเป็นพิเศษ ยิ่งมาเจอกับ “คังอินซู” (หนึ่งในสมาชิกไอดอลวง MYNAME) ก็ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะเราไม่รู้สึกว่าเคมีมันเกิดอะไรเลย ยกเว้นเวลาที่ทั้งคู่ร้องเพลงด้วยกันนั่นแหละ ที่ เออ ดี!

รับชม Wish You ได้ทาง Netflix