• @TOM NEWS
  • Apr 2023

Body Matters เรื่องเล่า เสียง การแสดง และการเคลื่อนไหวของผู้หญิง

By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
ก่อนเข้าไปดูการแสดง เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ “พี่นาด - สินีนาฏ เกษประไพ” ผู้ออกแบบกระบวนการและกำกับการแสดงงานชิ้นนี้ว่า “เราสนใจประเด็นเกี่ยวกับผู้หญิงนะ แต่ไม่มั่นใจเลยว่าจะเก็ตหรือเข้าใจความเป็นผู้หญิงทั้งหมดหรือเปล่า” เพราะคิดเองไปก่อนแล้วว่า Body Matters ดูเป็นงาน “โดยผู้หญิง ... เพื่อผู้หญิง” มากๆ ซึ่งพอได้ดูจริงๆ แล้วก็พบว่า ไม่ใช่หรอก นี่ไม่ใช่งานเพื่อผู้หญิงเท่านั้นหรอก แต่เป็นงานของผู้หญิงที่ต้องการจะสื่อสารให้ทุกคนได้รับรู้ เข้าใจ และรู้สึกถึงความเป็นผู้หญิงต่างหาก

Body Matters เป็นการแสดงในรูปแบบ Devising Performance โดยใช้ Body Movement – Body Expression ซึ่งเกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่างสินีนาฏ เกษประไพ และน้องๆ นักแสดงสองคนจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คือ “กัญรภา อุทิศธรรม” และ “พริมรติ เภตรากาศ” ซึ่งเราชอบพลังของทั้งคู่มาก มันสดใหม่ มีเสน่ห์ดึงดูด พร้อมกันนั้นก็สื่อสารได้ดีมาก แล้วก็ชอบมากๆ ด้วยที่มันมีช่วงที่พลังและการแสดงของทั้งคู่มันเท่ากัน เพื่อบอกเล่าเรื่องราวเดียวกัน แล้วก็มีช่วงที่พลังของแต่ละคนแตกต่างกัน เพื่อบอกเล่าสิ่งที่ต่างกันในรายละเอียด แน่นอน การแบ่งพาร์ตโซโล่ (โดยให้นักแสดงอีกคนถอยมานั่งมองเพื่อนแสดง) มันอาจจะดูง่าย แต่มันก็ดีงาม ในเมื่อพวกเธอมีเรื่องที่อยากจะพูดแตกต่างกัน การเปิดโอกาสให้เธอได้สื่อสารแบบนี้ มันก็กลายเป็นความเรียบง่ายที่สัมผัสโดนใจเรา คือชอบน้องๆ ทั้งคู่มากแบบเท่าๆ กันเลย ไม่ว่าจะมองในแง่การแสดงแบบปัจเจก หรือมองในแง่การแสดงแบบทีม ทำได้ดีมากๆ #ปรบมือ

ในฐานะเกย์ที่ได้ทำงานในมิติเรื่องเพศ และต้องคอยสำรวจตรวจสอบความรู้สึกของตัวเองต่อเรื่องเพศอยู่บ่อยๆ เราชอบมากๆ ที่ Body Matters พูดถึงความรู้สึกถึงความเป็นผู้หญิงของผู้หญิงแต่ละคนด้วย (รู้สึกหรือเข้าใจว่าตัวเองเป็นผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่ และเพราะอะไร) แล้วมันก็สั่นสะเทือนมากๆ เมื่อเราได้ดู ได้อ่าน ได้ฟังความอัดอั้นตันใจของผู้หญิงแต่ละคนด้วยตาตัวเอง ผสานไปกับการแสดงที่ใส่แบบไม่ยั้งเช่นนั้น ขอโน้ตไว้ตรงนี้ด้วยว่า ชอบบีตของการแสดงมาก ผ่อนหนัก-เบา ไล่เรียงได้ดีเหลือเกิน

ยอมรับว่าปกติเวลาดูงาน Body Movement มันจะมีช่วงที่เราต้องเกาหัวแกรกๆ หรือ “ไม่เข้าใจ” สิ่งที่เห็นตรงหน้าแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่กับงานชิ้นนี้มันสื่อสารทุกอย่างให้เข้าใจได้ง่ายมากๆ เลย อาจจะเพราะมีการใช้ข้อความ และเสียงสัมภาษณ์มาช่วยเล่าเรื่องด้วย แต่ก็ต้องออกตัวด้วยแหละนะว่า เราอาจจะไม่ได้เข้าใจทั้งหมดแบบร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่ดี และไม่ว่าเราจะเข้าใจผิดหรือถูก แต่ซีนสุดท้ายที่สองนักแสดงสาวตบหน้าอกของตัวเองทั้งสองข้างไปเรื่อยๆ ด้วยน้ำหนักและจังหวะที่เท่ากันจนไฟหรี่ลง ในวูบหนึ่งมันคือความเจ็บปวดหนักหน่วงที่ผู้หญิงทุกคนต้องรับมือไปไม่มีวันสิ้นสุด แต่ในอีกวูบหนึ่งเราก็รับรู้ได้ว่า พวกเธอไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว อย่างน้อยๆ ก็มีผู้หญิง (อีกหลายคน) ที่เข้าใจว่าพวกเธอต้องผ่านอะไรมาบ้าง