- @TOM NEWS
- Oct 2023
ผลสำรวจระบุ เกย์และเลสเบี้ยนวัยผู้ใหญ่อยู่ในสถานะทำงานเป็นพนักงานแบบเต็มเวลามากกว่าชายหญิงทั่วไป
By : Ruta
จากงานสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ประจำสหราชอาณาจักร (Office for National Statistics (ONS)) ระบุว่า จากการสอบถามประชาชนคนทำงานในปีที่ผ่านมา (ปี 2021) ในสหราชอาณาจักร แสดงให้เห็นว่า 64 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใหญ่ที่เป็นเลสเบี้ยน เกย์ และไบเซ็กช่วล อยู่ในสถานะพนักงานทำงานเต็มเวลา ซึ่งสูงกว่าสถานะของผู้ใหญ่ที่เป็นชายหญิงทั่วไปถึง 58 เปอร์เซ็นต์
ชุดข้อมูลนี้เป็นเสมือนความหวังที่บ่งบอกว่า สถานที่ทำงานและผู้ประกอบการนั้นพร้อมจะเปิดกว้างยอมรับพนักงานชาวเกย์และเลสเบี้ยนมากขึ้น โดยเฉพาะกับการทำงานเต็มเวลาเมื่อเทียบกับคนส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นเพียงแค่ตัวเลขที่ไม่ได้ระบุถึงรายละเอียดของคนทำงานชาว LGBTQ+ ว่ามีลักษณะงานเป็นเช่นไร มีความรู้สึกเช่นไรกับบรรยากาศของการทำงาน รวมถึงการยอมรับอย่างแท้จริงในระดับคนทำงานและสถานประกอบการ
Terry Payne กรรมการผู้จัดการระดับโลกของ Asprie กล่าวถึงรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ประจำสหราชอาณาจักรว่า "ในขณะที่ธุรกิจต่างๆ ตระหนักดีถึงความสำคัญของความหลากหลาย แต่เราก็ยังมีภารกิจที่ต้องทำอีกมาก เพศ ความพิการ เชื้อชาติ ศาสนา หรือการเป็นพ่อแม่ ไม่ควรกีดกันคนออกจากงาน ถึงเวลาแล้วที่นายจ้างทุกคนต้องทำสิ่งที่ถูกต้องและยกระดับแนวทางในการทำงานของพวกเราทุกคน”
จากงานสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ประจำสหราชอาณาจักร (Office for National Statistics (ONS)) ระบุว่า จากการสอบถามประชาชนคนทำงานในปีที่ผ่านมา (ปี 2021) ในสหราชอาณาจักร แสดงให้เห็นว่า 64 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใหญ่ที่เป็นเลสเบี้ยน เกย์ และไบเซ็กช่วล อยู่ในสถานะพนักงานทำงานเต็มเวลา ซึ่งสูงกว่าสถานะของผู้ใหญ่ที่เป็นชายหญิงทั่วไปถึง 58 เปอร์เซ็นต์
ชุดข้อมูลนี้เป็นเสมือนความหวังที่บ่งบอกว่า สถานที่ทำงานและผู้ประกอบการนั้นพร้อมจะเปิดกว้างยอมรับพนักงานชาวเกย์และเลสเบี้ยนมากขึ้น โดยเฉพาะกับการทำงานเต็มเวลาเมื่อเทียบกับคนส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นเพียงแค่ตัวเลขที่ไม่ได้ระบุถึงรายละเอียดของคนทำงานชาว LGBTQ+ ว่ามีลักษณะงานเป็นเช่นไร มีความรู้สึกเช่นไรกับบรรยากาศของการทำงาน รวมถึงการยอมรับอย่างแท้จริงในระดับคนทำงานและสถานประกอบการ
Terry Payne กรรมการผู้จัดการระดับโลกของ Asprie กล่าวถึงรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ประจำสหราชอาณาจักรว่า "ในขณะที่ธุรกิจต่างๆ ตระหนักดีถึงความสำคัญของความหลากหลาย แต่เราก็ยังมีภารกิจที่ต้องทำอีกมาก เพศ ความพิการ เชื้อชาติ ศาสนา หรือการเป็นพ่อแม่ ไม่ควรกีดกันคนออกจากงาน ถึงเวลาแล้วที่นายจ้างทุกคนต้องทำสิ่งที่ถูกต้องและยกระดับแนวทางในการทำงานของพวกเราทุกคน”