- @TOM NEWS
- Nov-Dec 2024
บทสรุปแม่หยัว The Empress of Ayodhaya กับความรักอันมั่นคงของตันหยง
By : Ruta
“แม่หยัว” (The Empress of Ayodhaya) ซีรีส์ฟอร์มยักษ์แห่งปีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแม่หยัว หรือ “แม่อยู่หัว” เพียงหนึ่งเดียวที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทย จากช่องวัน 31 จบลงพร้อมกับเสียงชื่นชม แม้จะมีดราม่าระหว่างทางเรื่องการถ่ายทำ จนกลายเป็นบาดแผลใหญ่ของงานซีรีส์เรื่องนี้ แต่สิ่งที่ชาวทอม ดี้ เลสฯ อย่างเราให้ความสนใจมากๆ ก็คือ การสอดแทรกประเด็นสำคัญเรื่องหญิงรักหญิง ลงไปในตัวละครหลัก และลุ้นเหลือเกินว่า เรื่องราวจะจบลงเช่นไร แล้วมันก็น่ายินดีที่ดูเหมือนความรักระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิงจะมั่นคงแน่วแน่ และมีพลังมากกว่าความรักใดๆ ในเรื่องเสียอีก
ย้อนกลับไปที่ EP.5 การเปิดความลับสำคัญของตัวละคร “ตันหยง” (รับบทโดย เฟิร์น - นพจิรา ฤกษ์ขจรนามกุล) หนึ่งในพระสนมเอกสี่ทิศของพระไชยราชาธิราช ว่ามีใจให้กับ “จินดา” (รับบทโดย ใหม่ - ดาวิกา โฮร์เน่) ในระหว่างอุบัติเหตุตกเรือ จนตันหยง หรือ “แม่น้อย” ของเราเผยความในใจออกมาว่า “ตั้งแต่เกิดมา ข้ามิเคยเสน่หาผู้ใด จนข้าได้มาเจอกับท่าน การนี้ หากท่านนำขึ้นเพ็ดทูล ข้าจักโดนโทษสถานหนัก แต่ข้ายอมบอกกับท่าน เพื่อแสดงถึงความจริงใจ” ก่อนจะบรรจงจูบบนริมฝีปากของจินดา แล้วหลังจากนั้น ก็เป็นตันหยงนี้เองที่อยู่เคียงข้าง คอยช่วยเหลือจินดามาโดยตลอด แม้ว่าเธอจะรู้อยู่เต็มอกว่า จินดามีใครคนอื่นในใจแล้วก็ตาม
เรื่องราวดำเนินมาจนถึง EP สุดท้าย เมื่อแม่หยัวมุ่งมั่นแล้วว่า จะทำทุกวิถีทางเพื่อโค่นบัลลังก์ขุนวรวงศาธิราช อดีตชู้รัก ที่ขึ้นครองราชย์ในเวลานี้ เพื่อให้บ้านเมืองสงบสุขอีกครา ในค่ำคืนสำคัญก่อนลงมือนั้น แม่หยัวและแม่น้อยก็ได้โอบกอด ร่ำไห้ด้วยความห่วงใย และทำให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงสองคนที่มิอาจมีสิ่งใดทำลายลงได้ โดยเฉพาะความรักที่แม่น้อยมีรักเพียงหนึ่งเดียวเสมอมา จนถึงฉากท้ายๆ ของ “แม่หยัว” เราก็ยังได้เห็นถึงความรักของแม่น้อยที่มีต่อแม่หยัว แม้เธอจะจากไป พร้อมกับเสียงก่นด่าของผู้คนมากแค่ไหนก็ตาม
แม้จะเป็นเพียงเรื่องที่แต่งเติมขึ้นมาเพื่อสร้างสีสันให้กับเรื่องราวและตัวละคร แต่มันก็ทำให้เราชุ่มชื่นใจว่า การสร้างตัวละครหญิงรักหญิงในซีรีส์ยุคนี้ ไม่ได้มีไว้เพื่อสนองภาพแฟนตาซีของบรรดาผู้ชาย หรือเล่นกับมุกเดิมๆ ประเภท เดี๋ยวพอเจอผู้ชายก็จะหายเป็นเลสฯ ได้เอง
“แม่หยัว” (The Empress of Ayodhaya) ซีรีส์ฟอร์มยักษ์แห่งปีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแม่หยัว หรือ “แม่อยู่หัว” เพียงหนึ่งเดียวที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทย จากช่องวัน 31 จบลงพร้อมกับเสียงชื่นชม แม้จะมีดราม่าระหว่างทางเรื่องการถ่ายทำ จนกลายเป็นบาดแผลใหญ่ของงานซีรีส์เรื่องนี้ แต่สิ่งที่ชาวทอม ดี้ เลสฯ อย่างเราให้ความสนใจมากๆ ก็คือ การสอดแทรกประเด็นสำคัญเรื่องหญิงรักหญิง ลงไปในตัวละครหลัก และลุ้นเหลือเกินว่า เรื่องราวจะจบลงเช่นไร แล้วมันก็น่ายินดีที่ดูเหมือนความรักระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิงจะมั่นคงแน่วแน่ และมีพลังมากกว่าความรักใดๆ ในเรื่องเสียอีก
ย้อนกลับไปที่ EP.5 การเปิดความลับสำคัญของตัวละคร “ตันหยง” (รับบทโดย เฟิร์น - นพจิรา ฤกษ์ขจรนามกุล) หนึ่งในพระสนมเอกสี่ทิศของพระไชยราชาธิราช ว่ามีใจให้กับ “จินดา” (รับบทโดย ใหม่ - ดาวิกา โฮร์เน่) ในระหว่างอุบัติเหตุตกเรือ จนตันหยง หรือ “แม่น้อย” ของเราเผยความในใจออกมาว่า “ตั้งแต่เกิดมา ข้ามิเคยเสน่หาผู้ใด จนข้าได้มาเจอกับท่าน การนี้ หากท่านนำขึ้นเพ็ดทูล ข้าจักโดนโทษสถานหนัก แต่ข้ายอมบอกกับท่าน เพื่อแสดงถึงความจริงใจ” ก่อนจะบรรจงจูบบนริมฝีปากของจินดา แล้วหลังจากนั้น ก็เป็นตันหยงนี้เองที่อยู่เคียงข้าง คอยช่วยเหลือจินดามาโดยตลอด แม้ว่าเธอจะรู้อยู่เต็มอกว่า จินดามีใครคนอื่นในใจแล้วก็ตาม
เรื่องราวดำเนินมาจนถึง EP สุดท้าย เมื่อแม่หยัวมุ่งมั่นแล้วว่า จะทำทุกวิถีทางเพื่อโค่นบัลลังก์ขุนวรวงศาธิราช อดีตชู้รัก ที่ขึ้นครองราชย์ในเวลานี้ เพื่อให้บ้านเมืองสงบสุขอีกครา ในค่ำคืนสำคัญก่อนลงมือนั้น แม่หยัวและแม่น้อยก็ได้โอบกอด ร่ำไห้ด้วยความห่วงใย และทำให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงสองคนที่มิอาจมีสิ่งใดทำลายลงได้ โดยเฉพาะความรักที่แม่น้อยมีรักเพียงหนึ่งเดียวเสมอมา จนถึงฉากท้ายๆ ของ “แม่หยัว” เราก็ยังได้เห็นถึงความรักของแม่น้อยที่มีต่อแม่หยัว แม้เธอจะจากไป พร้อมกับเสียงก่นด่าของผู้คนมากแค่ไหนก็ตาม
แม้จะเป็นเพียงเรื่องที่แต่งเติมขึ้นมาเพื่อสร้างสีสันให้กับเรื่องราวและตัวละคร แต่มันก็ทำให้เราชุ่มชื่นใจว่า การสร้างตัวละครหญิงรักหญิงในซีรีส์ยุคนี้ ไม่ได้มีไว้เพื่อสนองภาพแฟนตาซีของบรรดาผู้ชาย หรือเล่นกับมุกเดิมๆ ประเภท เดี๋ยวพอเจอผู้ชายก็จะหายเป็นเลสฯ ได้เอง