By : Ruta
เป็นอีกปีที่มีการจัดงานมอบรางวัลอรรธนารีศวร รางวัลแห่งความหลากหลายทางเพศระดับชาติและระดับสากล เพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรติบุคคล หน่วยงาน และองค์กรภาคธุรกิจ ที่อุทิศตนทำงานด้านการส่งเสริมสุขภาวะ และสิทธิมนุษยชนของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งในปีนี้นับเป็นครั้งที่ 5 แล้ว และในงานนี้ก็ทำให้ผู้ได้รางวัล (รวมถึงผู้ชม) น้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความภาคภูมิใจ ซาบซึ้งใจ และประทับใจกันถ้วนทั่ว เพราะกว่าที่แต่ละท่าน แต่ละองค์กรจะประสบความสำเร็จในวันนี้ ต่างก็ผ่านเส้นทางอันยากลำบากและมีเรื่องราวมากมายให้ฝ่าฟัน

โดยรายชื่อทั้งหมดของผู้ได้รับรางวัลอรรธนารีศวร ครั้งที่ 5 ประจำปี พ.ศ.2566 ก็ได้แก่
รางวัลด้านสร้างเสริมสุขภาพในชุมชนหลากหลายทางเพศ ประเภทบุคคล “รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช”
รางวัลด้านสร้างเสริมสุขภาพในชุมชนหลากหลายทางเพศ ประเภทองค์กร “BKK Pride Clinic สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร”
รางวัลด้านส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของชุมชนหลากหลายทางเพศ ประเภทบุคคล “คุณธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์”
รางวัลด้านส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของชุมชนหลากหลายทางเพศ ประเภทองค์กร “สมาคมบุคคลข้ามเพศแห่งประเทศไทย”
รางวัลด้านส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของชุมชนหลากหลายทางเพศ ประเภทภาคธุรกิจ “BRYAN TAN ENTERTAINMENT”
รางวัลสื่อสร้างสรรค์ ประเภทสื่อสารมวลชน “ละครมาตาลดา บริษัท เมกเกอร์ วาย จำกัด ช่อง 3 HD”
รางวัลด้านการส่งเสริมความเข้มแข็งและศักยภาพของชุมชนหลากหลายทางเพศ ประเภทบุคคล “นายแพทย์รัฐพล เตรียมวิชานนท์”
รางวัลด้านการส่งเสริมความเข้มแข็งและศักยภาพของชุมชนหลากหลายทางเพศ ประเภทหน่วยงาน “บริษัท ครับ คอมมูนิตี้ (ไทยแลนด์) จำกัด : KRUBB  Bangkok”
รางวัลสื่อสร้างสรรค์ ประเภทสื่อสังคมออนไลน์ “THE MATTER”
รางวัลแห่งความภาคภูมิใจด้านความหลากหลายทางเพศ (Pride Award) ประเภทบุคคล “คุณวู้ดดี้ มิลินทจินดา”
รางวัลแห่งความภาคภูมิใจด้านความหลากหลายทางเพศ (Pride Award) ประเภทหน่วยงาน “มูลนิธิเอ็มพลัส : MPLUS Thailand”
รางวัลมิตรภาพกับชุมชนความหลากหลายทางเพศ (Friendship Award) “คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์”



ในการขึ้นรับรางวัลของแต่ละท่านแต่ละองค์กรมีซีนที่น่าจดจำมากมาย แต่สำหรับเราแล้ว การก้าวขึ้นรับรางวัลของคุณธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ที่เล่าถึงโมเมนต์การต่อสู้เพื่อพวกเราชาว LGBTQ+ ในสภาเพื่อกฎหมายของพวกเรา ทั้งน้ำตามันช่างเต็มไปด้วยอารมณ์และความหวัง ในขณะที่การขึ้นรับรางวัลของสมาคมบุคคลข้ามเพศแห่งประเทศไทย ก็เป็นอีกโมเมนต์ที่น่าโอบกอด กับการเดินทางต่อสู้ทั้งการสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นกับคำว่า "คนข้ามเพศ" และความพยายามแก้ไขกฎหมายเพื่อความเท่าเทียม โดยขอช่วงเวลาแบ่งให้สมาชิกของสมาคมหลายๆ คนได้ขึ้นเวทีเพื่อพูดเรื่องราวของตัวเองก็จับใจมาก

ที่สำคัญที่สุด งานดีๆ เช่นนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มีคณะผู้จัดงาน อันได้แก่ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม, กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย