- @TOM NEWS
- Jan 2021
10 อันดับหนัง LGBTQ ประจำปี 2020
By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
ตามธรรมเนียมเป็นประจำทุกปี เราขอให้เพจ ชีวิตผมก็เหมือนหนัง จัดอันดับ 10 อันดับหนัง LGBTQ (เลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กช่วล ทรานส์ และเควียร์) ประจำปี 2020 ให้กับ @tom actz และนี่คือลิสต์ที่เราอยากให้ทุกคนได้ตามเก็บชมให้ครบ!
ตามธรรมเนียมเป็นประจำทุกปี เราขอให้เพจ ชีวิตผมก็เหมือนหนัง จัดอันดับ 10 อันดับหนัง LGBTQ (เลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กช่วล ทรานส์ และเควียร์) ประจำปี 2020 ให้กับ @tom actz และนี่คือลิสต์ที่เราอยากให้ทุกคนได้ตามเก็บชมให้ครบ!
1
Pain and Glory (2019)
ใครบ้างล่ะจะไม่เอาชีวิตของตัวละคร Salvador Mallo มาวางเทียบเคียงกับชีวิตของผู้กำกับ Pedro Almodóvar ในเมื่อมันเล่าเรื่องของผู้กำกับชื่อดังชาวสเปนที่กำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ เพิ่งสูญเสียคุณแม่ไปเมื่อไม่นาน และไม่มีแรงผลักดันให้สร้างสรรค์งานอะไรอีก ซึ่งพอมันเป็นหนังของคนที่ผ่านช่วงเวลาประสบความสำเร็จในชีวิตมาแล้ว ไม่มีอะไรต้องพิสูจน์ความสามารถอะไรของตัวเองอีกแล้ว แต่กลับต้องติดแหง็กอยู่ในร่างกายที่เสื่อมถอย ผุพัง เต็มไปด้วยความเจ็บป่วย การพยายามประคับประคองร่างกายและอารมณ์ให้ก้าวเดินต่อไป พร้อมๆ กับอารมณ์ถวิลหาอดีตที่ผ่านเลย มันจึงเป็นหนังที่เหมาะกับคนที่ผ่านอะไรๆ ในชีวิตมาแล้วประมาณนึง หรือถ้าเป็นคนแก่ชราก็น่าจะชอบมาก
2
Portrait of a Lady on Fire (2019)
Marianne จิตรกรสาวถูกว่าเศรษฐินีรายหนึ่งจ้างมายังเกาะอันห่างไกล เพื่อรับหน้าที่วาดรูป Héloïse ลูกสาวผู้เพิ่งออกจากคอนแวนต์ของเธอ ทว่า Marianne จะถูกแนะนำว่าเป็น “เพื่อนเดินเล่น” ของ Héloïse แล้วเธอจะต้องแอบจดจำใบหน้าของอีกฝ่ายเพื่อแอบมาวาดในเวลาว่างให้ได้เอง ช่างเป็นหนังที่จัดวางทุกองค์ประกอบได้ฉลาดและลึกล้ำเหลือเกิน คือจะดูในแง่ความบันเทิงมันก็ช่างสนุกสนานตื่นเต้น ดูในแง่ความสัมพันธ์ของตัวละครก็เพลิดเพลินอิ่มเอม ดูในแง่สุนทรียะทางศิลปะก็ช่างรื่นรมย์งดงามลงตัว ดูในแง่วิเคราะห์สังคม/สิทธิสตรีก็น่าถกเถียง หรือจะดูให้ลึกไปถึงขั้นตีความสัญญะต่างๆ เราก็เชื่อว่ามันเต็มไปด้วยรายละเอียดที่พูดคุยได้หลายชั่วโมงไม่มีเหน็ดเหนื่อย
3
Ammonite (2020)
เรื่องราวของ Mary Anning นักบรรพชีวินวิทยาที่สานสัมพันธ์ต้องห้ามกับ Charlotte Murchison ภรรยาสาวของนักบรรพชีวินวิทยาอีกคน ซึ่งเดินทางมาฟื้นฟูจากอาการบอบช้ำทางจิตใจ ในขณะที่หนังกลุ่มความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายสองคน มันจะมีมวลอารมณ์ที่ออกไปทางหนักแน่น โจ่งแจ้ง ชัดเจน และรุนแรง มวลอารมณ์ที่เกิดขึ้นใน Ammonite มันค่อยเป็นค่อยไป และมีทีท่าที่ต้อง “อ่าน” กว่าความสัมพันธ์แบบผู้ชาย-ผู้ชายเยอะ แล้วมันก็ไม่ใช่รูปแบบของเกมความสัมพันธ์ด้วยนะ มันนุ่มนวล ลึกซึ้ง หวามไหว และบทจะเร่าร้อนก็ทำหน้าเราผ่าวแดงไปหมด ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะกรอบสังคมในยุคนั้นด้วยแหละ ที่ทำให้พวกเธอไม่สามารถเปิดเผยความรู้สึกและความสัมพันธ์ได้อย่างชัดเจนรวดเร็ว
4
Happy Together (1997)
เล่าถึงความสัมพันธ์รักๆ เลิกๆ ของคู่รักเกย์ที่เดินทางออกจากฮ่องกงมาอาร์เจนติน่า พร้อมกับความหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่าและจะได้เดินทางไปดูน้ำตกอีกวาซูด้วยกัน ทว่าชีวิตมันไม่ง่ายดายแบบนั้น และความสัมพันธ์ของคนสองคนมันก็ไม่ง่ายด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายหนึ่งคือ โหเป่าหวัง เกย์หนุ่มผู้เอาแต่ใจ ร้ายกาจ แต่ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ อย่างคนที่รู้ดีว่าจะเอาชนะใจอีกฝ่ายได้อย่างไร พบว่าไม่ได้รู้สึกเศร้าและหดหู่ใจมากเท่ากับครั้งแรกๆ ที่ได้ดูเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ตรงกันข้าม เมื่อดูถึงตอนจบของ Happy Together ในครั้งนี้ เรากลับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกดีๆ ของการก้าวเดินต่อไป โดยทิ้งความทุกข์ความเศร้าจากความสัมพันธ์พังๆ ไว้เป็นความทรงจำ
5
Beautiful Thing (1996)
เรื่องราวความสัมพันธ์ของเด็กหนุ่มสองคนที่เป็นเพื่อนบ้านห้องติดกันในแฟลตแห่งหนึ่ง Jamie อยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยวผู้ทำงานเป็นสาวเสิร์ฟในร้านเหล้าที่มีหนุ่มๆ มาติดพันอยู่ตลอดเวลา ส่วน Ste อยู่กับพ่อขี้เมาและพี่ชายเจ้าอารมณ์ ที่เหมือนเค้าจะเป็นเครื่องรองรับอารมณ์ของทั้งพ่อและพี่เสมอ แล้วหลังจากคืนหนึ่งที่ Ste ต้องมาหลบภัยอยู่ในห้องของ Jamie ความรู้สึกบางอย่างของพวกเค้าก็ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ นึกเปรียบเทียบตัวเองว่า ถ้าเราได้ดู Beautiful Thing ตอนเป็นเด็กเกย์วัยกะเตาะในยุค 90 จะรู้สึกดีกับตัวเองมากแค่ไหน และจะรู้สึกสบายใจกับความสับสนที่มีมากเพียงใด
6
Suk Suk (2019)
ปาร์ค เป็นคุณตาวัย 70 ปีที่ลูกๆ โตจนแต่งงานย้ายออกไปมีครอบครัวของตัวเองกันหมดแล้ว เหลือเพียงเค้ากับภรรยาที่ครองคู่กันมายาวนาน แล้ววันหนึ่งปาร์คก็ได้ทำความรู้จักกับ ฮอย คุณปู่วัย 65 ปีที่หย่าร้างกับภรรยาและยังพักอาศัยอยู่กับลูกชายที่แต่งงานมีลูกมีเมีย บนความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ พัฒนาไปจากเรื่องเซ็กส์ สู่ชีวิตด้านอื่นๆ แต่อนาคตในความสัมพันธ์ของพวกเค้าช่างเลือนราง นอกจากความสัมพันธ์ของเกย์วัยเกษียณที่ต่างฝ่ายต่างมีพันธะ Suk Suk ยังซ่อนประเด็นอันหลากหลาย ทั้งเกย์ที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวตอนแก่เฒ่า บ้านพักคนชราของชาวเกย์จำเป็นต้องมีหรือไม่ พื้นที่ซาวน่าเกย์ การต่อต้านชาวเกย์ในเกาะฮ่องกง ไปจนถึงการแฝงประเด็นจีนแผ่นดินใหญ่-ฮ่องกง-ไต้หวัน
7
The Half of It (2020)
เรื่องราวของ The Half of It โฟกัสไปที่ Ellie Chu เด็กสาวเชื้อสายจีนที่ครอบครัวอพยพมาอยู่ในเมืองเล็กๆ อันเป็นต้นทางรถไฟในอเมริกา เธอเป็นเด็กฉลาดเฉลียวทางด้านการใช้ภาษา และแม้จะเก็บตัวเงียบ ไม่มีเพื่อนสักคน แต่ใครๆ ก็รู้จักเธอในฐานะผู้รับจ้างทำการบ้านชั้นยอด เรื่องชุลมุนวุ่นรักเริ่มขึ้นเมื่อ Paul เด็กหนุ่มใกล้บ้านมาไหว้วานให้ Ellie ใช้ความสามารถของเธอเขียนจดหมายรักถึงผู้หญิงที่เค้าแอบรัก มันคงไม่มีปัญหาอะไร ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ Aster นักเรียนสาวตัวท็อปของโรงเรียน ... ที่ Ellie แอบมองและแอบชอบมานานแล้วเหมือนกัน!! บอกก่อนว่า นี่ไม่ถือว่าเป็นการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญหรือความลับอะไรของหนัง เพราะผู้ชมอย่างเราๆ จะรู้ว่า Ellie แอบชอบ Aster ตั้งแต่พาร์ตแรกของหนังเลย!
8
A Secret Love (2020)
ชอบมิติหลายเลเยอร์ของสารคดีเรื่องนี้มาก เพราะในขณะที่เราคาดหวังว่ามันคงจะบอกเล่าความรักความสัมพันธ์ของ Terry และ Pat คู่รักเลสเบี้ยนวัยชราที่คบหากันมากว่า 65 ปี ผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากของการต้องซ่อนตัวตนที่แท้จริง และเก็บความสัมพันธ์ของพวกเธอไว้เป็นความลับ เรากลับได้เห็นอะไรที่มากมาย ทั้งพื้นเพภูมิหลังครอบครัวของทั้งคู่ ทั้งเรื่องน่าตื่นเต้นอย่างการที่ Terry เป็นหนึ่งในสมาชิกของเบสบอลหญิงชื่อดังรุ่นแรก, การได้เห็นความขัดแย้ง ไม่ลงรอย และการเล่นเกมจิตวิทยาแย่งชิงความรักระหว่าง Pat กับ Diana ผู้เป็นหลานสาวคนโปรดของ Terry, ได้เห็นการต่อสู้กับปัญหาสุขภาพ การวางแผนชีวิตวัยชรา แล้วมันก็ทำให้เราคิดถึงชีวิตวัยชราของตัวเราเองด้วยเช่นกัน
9
Dream Boat (2017)
คาดหวังว่ามันจะหวือหวา จัดจ้าน ร้อนแรง ฉาวโฉ่ หรืออย่างน้อยๆ มันก็น่าจะ “ดูสนุก” กว่านี้ แต่ถึงอย่างนั้นสารคดีที่ตามติดชีวิตของเกย์ (จำนวนหนึ่ง) บน Dream Boat ปาร์ตี้บนเรือ ซึ่งอัดแน่นไปด้วยเกย์นานาชาติล่องไปบนมหาสมุทรอันทำให้พวกเค้าได้เป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ที่สุดในช่วงสุดสัปดาห์ ก็ดูเพลินๆ และมีประเด็นเก่าใหม่ที่น่าสนใจอยู่ตลอดรายทาง ชอบประเด็นการเป็นเกย์สูงวัยใน Dream Boat มาก มันเหมือนกับว่า พวกเราชาวเกย์แทบไม่มีภาพของเกย์วัยชราอยู่ในหัวเลย เราไม่รู้ว่า พอพ้นวัย 50 ไปแล้ว ชีวิตเกย์วัยใกล้ฝั่งมันควรจะเป็นเช่นไร เราควรจะใช้ชีวิตแบบไหน อะไรคือไลฟ์สไตล์ที่พวกเรามองเห็นหรือวาดฝันไว้ หรือทำได้จริงกันแน่
10
Present Still Perfect แค่นี้ก็ดีแล้ว 2 (2020)
เคยติดอยู่ในห้วงความสัมพันธ์ที่รู้ทั้งรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ผิดศีลธรรม เพราะเราอาจจะกำลังทำลายความสัมพันธ์ของคนอื่นอยู่ไหม? มันเป็นความสุขปนเศร้า เป็นความสุขที่เหมือนมีระเบิดเวลาติดอยู่ เพราะเรารู้ดีว่าเวลาแห่งความสุขมันจะอยู่กับเราอีกไม่นานหรอก แล้วเราก็เชื่อว่า “เต้ย” ใน Present Still Perfect “แค่นี้ก็ดีแล้ว 2” ก็คงรู้สึกแบบเดียวกัน หลังจากภาคที่แล้ว เต้ย กับ โอ๊ต ตัดสินใจเดินทางแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตของตัวเอง โอ๊ตไปแต่งงานมีภรรยามีลูก ส่วนเต้ยก็ได้แต่จมอยู่กับความเจ็บช้ำ เวลาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนเต้ยก็ยังติดอยู่ในวังวนนั้น และแล้วโอ๊ตก็เดินกลับเข้ามาในชีวิตเค้าอีกครั้ง
Pain and Glory (2019)
ใครบ้างล่ะจะไม่เอาชีวิตของตัวละคร Salvador Mallo มาวางเทียบเคียงกับชีวิตของผู้กำกับ Pedro Almodóvar ในเมื่อมันเล่าเรื่องของผู้กำกับชื่อดังชาวสเปนที่กำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ เพิ่งสูญเสียคุณแม่ไปเมื่อไม่นาน และไม่มีแรงผลักดันให้สร้างสรรค์งานอะไรอีก ซึ่งพอมันเป็นหนังของคนที่ผ่านช่วงเวลาประสบความสำเร็จในชีวิตมาแล้ว ไม่มีอะไรต้องพิสูจน์ความสามารถอะไรของตัวเองอีกแล้ว แต่กลับต้องติดแหง็กอยู่ในร่างกายที่เสื่อมถอย ผุพัง เต็มไปด้วยความเจ็บป่วย การพยายามประคับประคองร่างกายและอารมณ์ให้ก้าวเดินต่อไป พร้อมๆ กับอารมณ์ถวิลหาอดีตที่ผ่านเลย มันจึงเป็นหนังที่เหมาะกับคนที่ผ่านอะไรๆ ในชีวิตมาแล้วประมาณนึง หรือถ้าเป็นคนแก่ชราก็น่าจะชอบมาก
2
Portrait of a Lady on Fire (2019)
Marianne จิตรกรสาวถูกว่าเศรษฐินีรายหนึ่งจ้างมายังเกาะอันห่างไกล เพื่อรับหน้าที่วาดรูป Héloïse ลูกสาวผู้เพิ่งออกจากคอนแวนต์ของเธอ ทว่า Marianne จะถูกแนะนำว่าเป็น “เพื่อนเดินเล่น” ของ Héloïse แล้วเธอจะต้องแอบจดจำใบหน้าของอีกฝ่ายเพื่อแอบมาวาดในเวลาว่างให้ได้เอง ช่างเป็นหนังที่จัดวางทุกองค์ประกอบได้ฉลาดและลึกล้ำเหลือเกิน คือจะดูในแง่ความบันเทิงมันก็ช่างสนุกสนานตื่นเต้น ดูในแง่ความสัมพันธ์ของตัวละครก็เพลิดเพลินอิ่มเอม ดูในแง่สุนทรียะทางศิลปะก็ช่างรื่นรมย์งดงามลงตัว ดูในแง่วิเคราะห์สังคม/สิทธิสตรีก็น่าถกเถียง หรือจะดูให้ลึกไปถึงขั้นตีความสัญญะต่างๆ เราก็เชื่อว่ามันเต็มไปด้วยรายละเอียดที่พูดคุยได้หลายชั่วโมงไม่มีเหน็ดเหนื่อย
3
Ammonite (2020)
เรื่องราวของ Mary Anning นักบรรพชีวินวิทยาที่สานสัมพันธ์ต้องห้ามกับ Charlotte Murchison ภรรยาสาวของนักบรรพชีวินวิทยาอีกคน ซึ่งเดินทางมาฟื้นฟูจากอาการบอบช้ำทางจิตใจ ในขณะที่หนังกลุ่มความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายสองคน มันจะมีมวลอารมณ์ที่ออกไปทางหนักแน่น โจ่งแจ้ง ชัดเจน และรุนแรง มวลอารมณ์ที่เกิดขึ้นใน Ammonite มันค่อยเป็นค่อยไป และมีทีท่าที่ต้อง “อ่าน” กว่าความสัมพันธ์แบบผู้ชาย-ผู้ชายเยอะ แล้วมันก็ไม่ใช่รูปแบบของเกมความสัมพันธ์ด้วยนะ มันนุ่มนวล ลึกซึ้ง หวามไหว และบทจะเร่าร้อนก็ทำหน้าเราผ่าวแดงไปหมด ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะกรอบสังคมในยุคนั้นด้วยแหละ ที่ทำให้พวกเธอไม่สามารถเปิดเผยความรู้สึกและความสัมพันธ์ได้อย่างชัดเจนรวดเร็ว
4
Happy Together (1997)
เล่าถึงความสัมพันธ์รักๆ เลิกๆ ของคู่รักเกย์ที่เดินทางออกจากฮ่องกงมาอาร์เจนติน่า พร้อมกับความหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่าและจะได้เดินทางไปดูน้ำตกอีกวาซูด้วยกัน ทว่าชีวิตมันไม่ง่ายดายแบบนั้น และความสัมพันธ์ของคนสองคนมันก็ไม่ง่ายด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายหนึ่งคือ โหเป่าหวัง เกย์หนุ่มผู้เอาแต่ใจ ร้ายกาจ แต่ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ อย่างคนที่รู้ดีว่าจะเอาชนะใจอีกฝ่ายได้อย่างไร พบว่าไม่ได้รู้สึกเศร้าและหดหู่ใจมากเท่ากับครั้งแรกๆ ที่ได้ดูเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ตรงกันข้าม เมื่อดูถึงตอนจบของ Happy Together ในครั้งนี้ เรากลับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกดีๆ ของการก้าวเดินต่อไป โดยทิ้งความทุกข์ความเศร้าจากความสัมพันธ์พังๆ ไว้เป็นความทรงจำ
5
Beautiful Thing (1996)
เรื่องราวความสัมพันธ์ของเด็กหนุ่มสองคนที่เป็นเพื่อนบ้านห้องติดกันในแฟลตแห่งหนึ่ง Jamie อยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยวผู้ทำงานเป็นสาวเสิร์ฟในร้านเหล้าที่มีหนุ่มๆ มาติดพันอยู่ตลอดเวลา ส่วน Ste อยู่กับพ่อขี้เมาและพี่ชายเจ้าอารมณ์ ที่เหมือนเค้าจะเป็นเครื่องรองรับอารมณ์ของทั้งพ่อและพี่เสมอ แล้วหลังจากคืนหนึ่งที่ Ste ต้องมาหลบภัยอยู่ในห้องของ Jamie ความรู้สึกบางอย่างของพวกเค้าก็ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ นึกเปรียบเทียบตัวเองว่า ถ้าเราได้ดู Beautiful Thing ตอนเป็นเด็กเกย์วัยกะเตาะในยุค 90 จะรู้สึกดีกับตัวเองมากแค่ไหน และจะรู้สึกสบายใจกับความสับสนที่มีมากเพียงใด
6
Suk Suk (2019)
ปาร์ค เป็นคุณตาวัย 70 ปีที่ลูกๆ โตจนแต่งงานย้ายออกไปมีครอบครัวของตัวเองกันหมดแล้ว เหลือเพียงเค้ากับภรรยาที่ครองคู่กันมายาวนาน แล้ววันหนึ่งปาร์คก็ได้ทำความรู้จักกับ ฮอย คุณปู่วัย 65 ปีที่หย่าร้างกับภรรยาและยังพักอาศัยอยู่กับลูกชายที่แต่งงานมีลูกมีเมีย บนความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ พัฒนาไปจากเรื่องเซ็กส์ สู่ชีวิตด้านอื่นๆ แต่อนาคตในความสัมพันธ์ของพวกเค้าช่างเลือนราง นอกจากความสัมพันธ์ของเกย์วัยเกษียณที่ต่างฝ่ายต่างมีพันธะ Suk Suk ยังซ่อนประเด็นอันหลากหลาย ทั้งเกย์ที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวตอนแก่เฒ่า บ้านพักคนชราของชาวเกย์จำเป็นต้องมีหรือไม่ พื้นที่ซาวน่าเกย์ การต่อต้านชาวเกย์ในเกาะฮ่องกง ไปจนถึงการแฝงประเด็นจีนแผ่นดินใหญ่-ฮ่องกง-ไต้หวัน
7
The Half of It (2020)
เรื่องราวของ The Half of It โฟกัสไปที่ Ellie Chu เด็กสาวเชื้อสายจีนที่ครอบครัวอพยพมาอยู่ในเมืองเล็กๆ อันเป็นต้นทางรถไฟในอเมริกา เธอเป็นเด็กฉลาดเฉลียวทางด้านการใช้ภาษา และแม้จะเก็บตัวเงียบ ไม่มีเพื่อนสักคน แต่ใครๆ ก็รู้จักเธอในฐานะผู้รับจ้างทำการบ้านชั้นยอด เรื่องชุลมุนวุ่นรักเริ่มขึ้นเมื่อ Paul เด็กหนุ่มใกล้บ้านมาไหว้วานให้ Ellie ใช้ความสามารถของเธอเขียนจดหมายรักถึงผู้หญิงที่เค้าแอบรัก มันคงไม่มีปัญหาอะไร ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ Aster นักเรียนสาวตัวท็อปของโรงเรียน ... ที่ Ellie แอบมองและแอบชอบมานานแล้วเหมือนกัน!! บอกก่อนว่า นี่ไม่ถือว่าเป็นการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญหรือความลับอะไรของหนัง เพราะผู้ชมอย่างเราๆ จะรู้ว่า Ellie แอบชอบ Aster ตั้งแต่พาร์ตแรกของหนังเลย!
8
A Secret Love (2020)
ชอบมิติหลายเลเยอร์ของสารคดีเรื่องนี้มาก เพราะในขณะที่เราคาดหวังว่ามันคงจะบอกเล่าความรักความสัมพันธ์ของ Terry และ Pat คู่รักเลสเบี้ยนวัยชราที่คบหากันมากว่า 65 ปี ผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากของการต้องซ่อนตัวตนที่แท้จริง และเก็บความสัมพันธ์ของพวกเธอไว้เป็นความลับ เรากลับได้เห็นอะไรที่มากมาย ทั้งพื้นเพภูมิหลังครอบครัวของทั้งคู่ ทั้งเรื่องน่าตื่นเต้นอย่างการที่ Terry เป็นหนึ่งในสมาชิกของเบสบอลหญิงชื่อดังรุ่นแรก, การได้เห็นความขัดแย้ง ไม่ลงรอย และการเล่นเกมจิตวิทยาแย่งชิงความรักระหว่าง Pat กับ Diana ผู้เป็นหลานสาวคนโปรดของ Terry, ได้เห็นการต่อสู้กับปัญหาสุขภาพ การวางแผนชีวิตวัยชรา แล้วมันก็ทำให้เราคิดถึงชีวิตวัยชราของตัวเราเองด้วยเช่นกัน
9
Dream Boat (2017)
คาดหวังว่ามันจะหวือหวา จัดจ้าน ร้อนแรง ฉาวโฉ่ หรืออย่างน้อยๆ มันก็น่าจะ “ดูสนุก” กว่านี้ แต่ถึงอย่างนั้นสารคดีที่ตามติดชีวิตของเกย์ (จำนวนหนึ่ง) บน Dream Boat ปาร์ตี้บนเรือ ซึ่งอัดแน่นไปด้วยเกย์นานาชาติล่องไปบนมหาสมุทรอันทำให้พวกเค้าได้เป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ที่สุดในช่วงสุดสัปดาห์ ก็ดูเพลินๆ และมีประเด็นเก่าใหม่ที่น่าสนใจอยู่ตลอดรายทาง ชอบประเด็นการเป็นเกย์สูงวัยใน Dream Boat มาก มันเหมือนกับว่า พวกเราชาวเกย์แทบไม่มีภาพของเกย์วัยชราอยู่ในหัวเลย เราไม่รู้ว่า พอพ้นวัย 50 ไปแล้ว ชีวิตเกย์วัยใกล้ฝั่งมันควรจะเป็นเช่นไร เราควรจะใช้ชีวิตแบบไหน อะไรคือไลฟ์สไตล์ที่พวกเรามองเห็นหรือวาดฝันไว้ หรือทำได้จริงกันแน่
10
Present Still Perfect แค่นี้ก็ดีแล้ว 2 (2020)
เคยติดอยู่ในห้วงความสัมพันธ์ที่รู้ทั้งรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ผิดศีลธรรม เพราะเราอาจจะกำลังทำลายความสัมพันธ์ของคนอื่นอยู่ไหม? มันเป็นความสุขปนเศร้า เป็นความสุขที่เหมือนมีระเบิดเวลาติดอยู่ เพราะเรารู้ดีว่าเวลาแห่งความสุขมันจะอยู่กับเราอีกไม่นานหรอก แล้วเราก็เชื่อว่า “เต้ย” ใน Present Still Perfect “แค่นี้ก็ดีแล้ว 2” ก็คงรู้สึกแบบเดียวกัน หลังจากภาคที่แล้ว เต้ย กับ โอ๊ต ตัดสินใจเดินทางแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตของตัวเอง โอ๊ตไปแต่งงานมีภรรยามีลูก ส่วนเต้ยก็ได้แต่จมอยู่กับความเจ็บช้ำ เวลาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนเต้ยก็ยังติดอยู่ในวังวนนั้น และแล้วโอ๊ตก็เดินกลับเข้ามาในชีวิตเค้าอีกครั้ง