• @TOM NEWS
  • Oct 2021

อนินทรีย์แดง สายลับกะเทย-กระหรี่ ที่ต้องปลอมตัวเป็นเกย์ไปล้วงความลับ

By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
อยากให้หนังยาวกว่านี้อีกมากๆ เพราะเราชอบโลกที่ผู้กำกับ “รัชฏ์ภูมิ บุญบัญชาโชค” สร้างขึ้นมามาก ทั้งในแง่ของโปรดักชั่น สีสัน แสงสี โลเคชั่น บรรยากาศ ตัวละคร และเสียงพากษ์แบบหนังไทยยุคเก่าในครึ่งแรก ที่เป็นทั้งสัญญะ จุดพลิกผัน และกลายเป็นเสน่ห์ของ “อนินทรีย์แดง”

ถึงบทสัมภาษณ์ของรัชฏ์ภูมิจะยืนยันว่าไม่ได้คิดถึง Iron Pussy เลย แต่ก็ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่เราคิดถึงหนังสั้นชุดนั้นของไมเคิล เชาวนาศัย ด้วยเรื่องราวของ “อังค์” สายลับกะเทยผู้มีชีวิตอีกด้านเป็นกระหรี่ กับภารกิจใหม่ล่าสุดที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ให้เขาไปตีสนิทกับ “จิตร” หนุ่มนักศึกษาผู้ถูกสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการบางอย่าง และครั้งนี้อังค์จะต้องสลัดคราบกะเทยแต่งหญิงทิ้งไปเสีย เพราะเธอจะต้องกลายเป็น “อิน” เกย์หนุ่มสวมแว่นท่าทางเรียบร้อย เพื่อทำให้จิตรตกหลุมรักให้ได้

เหมือนเคยรู้มาก่อนว่าหนังจะใช้เทคนิคพากษ์เสียงทับให้ตัวละครมีเนื้อเสียงแบบเดียวกับหนังไทยยุคเก่า แต่ก็ลืมไปแล้ว พอเข้าไปนั่งดูในโรงก็เลยมีอาการเหวอๆ อยู่ประมาณ 5 – 10 นาที แล้วพอปรับตัวจูนติดกับการใช้เสียงพากษ์ของตัวละคร อยู่ๆ เหล่าตัวละครก็ค้นพบเสียงจริงของตัวเองขึ้นมา ต่อด้วยฉากเข้าคอร์สฝึกใช้เสียงที่ทั้งเพี้ยนคลั่ง ชวนหัวเราะ ปวดร้าว และหวามไหว แต่เอาเข้าจริง เราไม่ได้อินหรือตื่นเต้นกับประเด็นเรื่อง “เสียง” หรือ “อุดมการณ์ทางการเมือง” อะไรสักเท่าไหร่ เรากลับตื่นเต้นช่วงเวลาของการทำความรู้จัก สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ทุบทำลายสัมพันธ์ที่สร้างขึ้นมา และกอบกู้ศรัทธาในกันและกันขึ้นมาใหม่ของตัวละครอังค์/อิน และจิตรมากกว่า

เทียบเคียงกับโลกแห่งความเป็นจริง การนัดพบกันของเกย์หนุ่มในยุคสมัยนี้ผ่านแอพพลิเคชั่น ต้องผ่านช่วงเวลาของการทำความรู้จักและค้นหาว่า อะไรคือตัวตนจริงๆ ของเค้า แล้งอะไรคือสิ่งที่เค้าสร้างขึ้นฉาบเคลือบเอาไว้ เขาสนใจอ่านหนังสืออะไร ดูหนังแบบไหน มีความคิดความเชื่ออย่างไร แล้วจะทำเช่นไร ถ้าอุดมการณ์ทัศนคติของเราไม่ตรงกัน แล้วถ้าวันนึงเราเป็นฝ่ายทำมันพังไปกับมือตัวเองล่ะ เราจะกล้าที่จะขอโอกาสอีกครั้ง หรือกล้าที่จะให้โอกาสตัวเองอีกครั้งไหม

จริงๆ การจบลงด้วยการพบกันอีกครั้งของอังค์/อิน และจิตร ด้วยตัวตนและเสียงที่แท้จริง มันเหมือนจะเป็น Happy Ending นะ แต่ทำไมเราถึงรู้สึกเศร้าก็ไม่รู้ หรือเพราะความรักความสัมพันธ์ของพวกเค้าจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อพวกเค้าสูญสิ้นอุดมการณ์บางอย่างไปแล้ว (หรือถูกรักษาให้หายแล้ว?) ถูกห่อคลุมไว้ด้วยเครื่องแบบที่รัฐมอบให้ และดำเนินชีวิตไปตามคำแนะนำของรัฐ สิ่งที่เราไม่รู้ก็คือ ต่อจากนี้ไปพวกเค้าจะมีความสุขดีใช่ไหม?

ตอนนี้ อนินทรีย์แดง ฉายอยู่ในโปรแกรม "กีรติ ศักดินา พญาอนินทรีย์แดง" (ฉายควบกับ Forget Me Not ผลงานของ จุฬญาณนนท์ ศิริผล) ที่ Doc Club & Pub. อย่าพลาด!