- @TOM NEWS
- Mar-Apr 2025
Queer Eye: Season 9 ตะลุยลาสเวกัสกับแก๊งกูรูเควียร์

By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
เริ่มต้นซีซั่นที่ 9 กับการต้อนรับสมาชิกใหม่ Jeremiah Brent ที่จะมารับหน้าที่รีโนเวทบ้าน/พื้นที่ของแขกรับเชิญในแต่ละ EP แทน Bobby Berk ที่ถอนตัวออกไป พร้อมกับข่าวลือดราม่าต่างๆ นานา แล้วก็เหมือนรายการก็ไม่อยากจะให้มีประเด็นดราม่าอะไรเกิดขึ้นอีก จึงเลี่ยงที่จะไม่พูดถึง Bobby เลย แต่โฟกัสไปที่การรับน้องใหม่อย่าง Jeremiah แทน แล้วก็กลายเป็นพ่อหนุ่มผมบลอนด์คนนี้นี่เองที่เป็นเสน่ห์ของซีซั่นนี้
ขอเกริ่นนำเช่นเคย สำหรับคนที่ไม่เคยดู Queer Eye มาก่อน นี่คือรายการเรียลิตี้สไตล์เมคโอเวอร์ ที่มีทีม The Fab Five เป็นกูรูเควียร์ผู้รอบรู้ในหลากหลายด้านมาคอยดูแลปรับเปลี่ยนปรุงโฉมให้แขกรับเชิญที่เป็นคนธรรมดาๆ ให้เริ่ดกว่าเดิม ซึ่ง 5 สมาชิกของ The Fab Five ก็ได้แก่ Antoni ดูแลเรื่องอาหารการกิน, Tan ดูแลเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว, Jonathan ดูแลเรื่องทรงผมและกรูมมิ่ง, Karamo ดูแลเรื่องการปรับวิธีคิด วิธีการใช้ชีวิต และในซีซั่นใหม่นี้ก็มี Jeremiah มาดูแลเรื่องดีไซน์การตกแต่งบ้าน
ถึงแม้ว่าการดู Queer Eye จะเต็มไปด้วยอะไรซ้ำๆ เดิมๆ อย่างภารกิจปรับเปลี่ยนแปลงโฉมให้แขกรับเชิญนั้น ถึงจุดหนึ่งก็ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นอีกต่อไปแล้ว แต่ในขณะเดียวกัน การดู Queer Eye ก็การันตีได้เช่นกันว่า เราจะต้องซาบซึ้งน้ำตาแตกไปกับเรื่องราวชีวิตของแขกรับเชิญ หรือตอนที่พวกเค้าได้ปลดล็อกอะไรบางอย่างในใจ เพื่อก้าวเดินต่อไป และแน่นอน ทุกครั้งที่พวกเค้าได้เห็นโฉมใหม่ของบ้านตัวเอง เราก็พลอยดีใจน้ำตาไหลไปกับพวกเค้าด้วย ดังนั้น การดู Queer Eye ของเราจึงเป็นอะไรที่เรามั่นใจเสมอว่า มันจะต้องเพิ่มพูนพลังชีวิตและแรงบันดาลใจให้กับตัวเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ในซีซั่นที่ 9 นี้ เราชอบเรื่องราวของ Paula อดีตโชว์เกิร์ลวัยเกษียณแห่งลาสเวกัส ที่มีบุคลิกน่ารักสดใส แต่ดูเหมือนเธอไม่รู้จะรับมือกับความชราที่มาเยือนอย่างไร โดยเฉพาะการแสวงหาคุณค่าในตัวเอง เมื่อไม่ได้เป็นที่ต้องการอีกต่อไป, Nicole หญิงผิวสีที่ถูกตีกรอบชีวิตจากพ่อแม่และสามีของตัวเองมาตลอด จนวันหนึ่งที่อยู่ๆ เค้าก็หอบกระเป๋าทิ้งเธอไป โดยไม่บอกเหตุผลอะไรเลย การกอบกู้ความรักในตัวเองจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งในวัย 50 กว่า, Jen'ya แม่เลี้ยงเดี่ยวที่ทำงานเพื่อคนไร้บ้านมาตลอด จนถึงวันหนึ่งที่เธอต้องกลายเป็นคนไร้บ้านเสียเอง เมื่อถึงขีดสุดของความสัมพันธ์ Toxic แล้วหอบลูกสาวออกจากบ้านมาสู้ชีวิตเอาดาบหน้า, Sara คุณแม่ของลูกสาว 3 คน ที่ต้องหาเลี้ยงพวกเธอเพียงลำพัง ในขณะที่สามีถูกส่งตัวกลับประเทศ และความมุ่งมั่นที่จะทำงานควบกะ พร้อมเรียนปริญญาให้จบ เพื่ออัพเงินเดือน ก็อาจจะทำให้เธอขาดใจตายก่อนที่จะประสบความสำเร็จ
ชอบมากเลยแหละ ที่ซีซั่นนี้ทำให้เราเห็นภาพวิถีชีวิตของผู้คนในลาสเวกัส เมืองแห่งแสงสี โอกาส และความหวัง ซึ่งมีผู้คนมากมายพยายามดิ้นรนใช้ชีวิตให้รอดในเมืองนี้ แล้วแม้เรื่องราวของแขกรับเชิญแต่ละคนจะดราม่าหนักหนาแค่ไหน เมื่อ The Fab Five มาถึง อะไรๆ ก็สดใสไปหมด!
ป.ล. ถึงจะยังคิดถึง Bobby แต่เราก็ชอบความอ่อนไหว และการเป็นน้องใหม่น่าแกล้งของ Jeremiah มากนะ แล้วผลงานการตกแต่งรีโนเวทบ้านของเค้าก็โอเคเลย เพราะฉะนั้น ก็ยินดีต้อนรับสู่ทีม The Fab Five และใช้นามสกุล Queer Eye ได้อย่างเต็มภาคภูมินะจ๊ะ
รับชม Queer Eye ทุกซีซั่นได้ทาง Netflix
เริ่มต้นซีซั่นที่ 9 กับการต้อนรับสมาชิกใหม่ Jeremiah Brent ที่จะมารับหน้าที่รีโนเวทบ้าน/พื้นที่ของแขกรับเชิญในแต่ละ EP แทน Bobby Berk ที่ถอนตัวออกไป พร้อมกับข่าวลือดราม่าต่างๆ นานา แล้วก็เหมือนรายการก็ไม่อยากจะให้มีประเด็นดราม่าอะไรเกิดขึ้นอีก จึงเลี่ยงที่จะไม่พูดถึง Bobby เลย แต่โฟกัสไปที่การรับน้องใหม่อย่าง Jeremiah แทน แล้วก็กลายเป็นพ่อหนุ่มผมบลอนด์คนนี้นี่เองที่เป็นเสน่ห์ของซีซั่นนี้
ขอเกริ่นนำเช่นเคย สำหรับคนที่ไม่เคยดู Queer Eye มาก่อน นี่คือรายการเรียลิตี้สไตล์เมคโอเวอร์ ที่มีทีม The Fab Five เป็นกูรูเควียร์ผู้รอบรู้ในหลากหลายด้านมาคอยดูแลปรับเปลี่ยนปรุงโฉมให้แขกรับเชิญที่เป็นคนธรรมดาๆ ให้เริ่ดกว่าเดิม ซึ่ง 5 สมาชิกของ The Fab Five ก็ได้แก่ Antoni ดูแลเรื่องอาหารการกิน, Tan ดูแลเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว, Jonathan ดูแลเรื่องทรงผมและกรูมมิ่ง, Karamo ดูแลเรื่องการปรับวิธีคิด วิธีการใช้ชีวิต และในซีซั่นใหม่นี้ก็มี Jeremiah มาดูแลเรื่องดีไซน์การตกแต่งบ้าน
ถึงแม้ว่าการดู Queer Eye จะเต็มไปด้วยอะไรซ้ำๆ เดิมๆ อย่างภารกิจปรับเปลี่ยนแปลงโฉมให้แขกรับเชิญนั้น ถึงจุดหนึ่งก็ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นอีกต่อไปแล้ว แต่ในขณะเดียวกัน การดู Queer Eye ก็การันตีได้เช่นกันว่า เราจะต้องซาบซึ้งน้ำตาแตกไปกับเรื่องราวชีวิตของแขกรับเชิญ หรือตอนที่พวกเค้าได้ปลดล็อกอะไรบางอย่างในใจ เพื่อก้าวเดินต่อไป และแน่นอน ทุกครั้งที่พวกเค้าได้เห็นโฉมใหม่ของบ้านตัวเอง เราก็พลอยดีใจน้ำตาไหลไปกับพวกเค้าด้วย ดังนั้น การดู Queer Eye ของเราจึงเป็นอะไรที่เรามั่นใจเสมอว่า มันจะต้องเพิ่มพูนพลังชีวิตและแรงบันดาลใจให้กับตัวเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ในซีซั่นที่ 9 นี้ เราชอบเรื่องราวของ Paula อดีตโชว์เกิร์ลวัยเกษียณแห่งลาสเวกัส ที่มีบุคลิกน่ารักสดใส แต่ดูเหมือนเธอไม่รู้จะรับมือกับความชราที่มาเยือนอย่างไร โดยเฉพาะการแสวงหาคุณค่าในตัวเอง เมื่อไม่ได้เป็นที่ต้องการอีกต่อไป, Nicole หญิงผิวสีที่ถูกตีกรอบชีวิตจากพ่อแม่และสามีของตัวเองมาตลอด จนวันหนึ่งที่อยู่ๆ เค้าก็หอบกระเป๋าทิ้งเธอไป โดยไม่บอกเหตุผลอะไรเลย การกอบกู้ความรักในตัวเองจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งในวัย 50 กว่า, Jen'ya แม่เลี้ยงเดี่ยวที่ทำงานเพื่อคนไร้บ้านมาตลอด จนถึงวันหนึ่งที่เธอต้องกลายเป็นคนไร้บ้านเสียเอง เมื่อถึงขีดสุดของความสัมพันธ์ Toxic แล้วหอบลูกสาวออกจากบ้านมาสู้ชีวิตเอาดาบหน้า, Sara คุณแม่ของลูกสาว 3 คน ที่ต้องหาเลี้ยงพวกเธอเพียงลำพัง ในขณะที่สามีถูกส่งตัวกลับประเทศ และความมุ่งมั่นที่จะทำงานควบกะ พร้อมเรียนปริญญาให้จบ เพื่ออัพเงินเดือน ก็อาจจะทำให้เธอขาดใจตายก่อนที่จะประสบความสำเร็จ
ชอบมากเลยแหละ ที่ซีซั่นนี้ทำให้เราเห็นภาพวิถีชีวิตของผู้คนในลาสเวกัส เมืองแห่งแสงสี โอกาส และความหวัง ซึ่งมีผู้คนมากมายพยายามดิ้นรนใช้ชีวิตให้รอดในเมืองนี้ แล้วแม้เรื่องราวของแขกรับเชิญแต่ละคนจะดราม่าหนักหนาแค่ไหน เมื่อ The Fab Five มาถึง อะไรๆ ก็สดใสไปหมด!
ป.ล. ถึงจะยังคิดถึง Bobby แต่เราก็ชอบความอ่อนไหว และการเป็นน้องใหม่น่าแกล้งของ Jeremiah มากนะ แล้วผลงานการตกแต่งรีโนเวทบ้านของเค้าก็โอเคเลย เพราะฉะนั้น ก็ยินดีต้อนรับสู่ทีม The Fab Five และใช้นามสกุล Queer Eye ได้อย่างเต็มภาคภูมินะจ๊ะ
รับชม Queer Eye ทุกซีซั่นได้ทาง Netflix