By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
เป็นปกติธรรมดาสำหรับรายการ The Circle ของทาง Netflix ที่จะมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันหลากหลาย (ทั้งในแง่เพศ ที่มีชาว LGBTQ+ มาร่วมรายการอยู่หลายคน, สัญชาติ เชื้อชาติ สีผิว และช่วงวัย) แต่ในซีซั่นที่ 6 นี้ เราได้เห็นทั้งเกย์หนุ่มร่างอวบอ้วนที่ไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเองจนต้องใช้โปรไฟล์ของคนอื่นในการเล่นเกม, เกย์หนุ่มที่ปรับเปลี่ยนตัวเอง ลดความอ้วนจนหุ่นดีมีเสน่ห์ แต่กลับเลือกเล่นเกมด้วยรูปลักษณ์เดิมของตัวเอง ที่ดูไม่มีพิษไม่มีภัย ทว่าแท้ที่จริง เค้าตั้งใจมาป่วนเกมนี้ ด้วยการสาดโคลน ปลุกปั่น แม้กระทั่งใส่ความว่า มีผู้เล่นคนอื่นเป็นไบเซ็กช่วล แล้วในซีซั่นนี้ ยังมีผู้เล่นที่เป็นระบบ AI มาร่วมแจมอีกด้วย!

บอกเล่ากันสักหน่อย สำหรับคนที่ไม่เคยดู The Circle มาก่อน นี่คือรายการเรียลตี้คอนเซ็ปต์ฉลาดจาก #Netflix ที่จับเอาผู้คนหลากหลายคาแร็คเตอร์มาอยู่ในห้องส่วนตัวที่ติดกล้องไว้เพียบ แล้วให้สร้างโปรไฟล์ใน The Circle (คล้ายๆ โซเชียลมีเดียผสมแอพหาคู่) โดยสามารถสร้างโปรไฟล์ที่เป็นตัวของตัวเองแบบ 100% หรือจะสร้างตัวตนใหม่ขึ้นมาจากรูปและข้อมูลของคนอื่นก็ได้ เพราะพวกเค้าทั้งหมดจะไม่มีโอกาสได้เจอหน้าเจอตัวกันเป็นๆ นอกจากพูดคุยทักทาย (ผ่านแชต) และเล่นเกมต่างๆ ร่วมกันใน The Circle เท่านั้น ที่สำคัญ ทุกๆ วันพวกเค้าจะต้องจัดอันดับคนที่ชอบมากที่สุดไล่เรียงไปหาคนที่ชอยน้อยที่สุด จากนั้นระบบจะประมวลผล แล้วคนที่ได้ 2 อันดับแรกจะได้เป็น Influencer ซึ่งสามารถชี้ชะตา “บล็อก” หรือไล่ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ กลับบ้านได้ (แล้วก็จะมีใครใหม่เข้ามาแทนที่ในวันรุ่งขึ้น #วนไป) โดยเป้าหมายสุดท้ายของเกมก็คือ การค้นหาสุดยอด Influencer ที่จะได้เงินรางวัล 100,000 เหรียญ ไปครอง

ย้อนกลับมาที่ภาพรวมของรายการ The Circle ในซีซั่นนี้ ที่ผ่านมา มวลอารมณ์ของการดู The Circle มักจะอยู่ในโหมดมอบพลังบวก ให้คุณค่ากับมิตรภาพ และสร้างเสริมทัศนคติที่ดี แต่ในซีซั่นที่ 6 นี้ เราสัมผัสถึงพลังในโหมดนี้น้อยมาก มันเต็มไปด้วยความจริงจังเข้มข้นของเรื่องดราม่า แล้วดูเหมือนผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะมาพร้อมการวางกลยุทธ์ ระแวดระวังในทุกย่างก้าวการเดินหมาก มากกว่าจะมอบความจริงใจให้กัน หรือแม้แต่ผู้เล่นที่จับคู่กันด้วยมิตรภาพเชิงชู้สาว หยอกเอิน หยอดคำหวานกันไปมา ก็ยังมีแผนการและมีความคาดหวังเชิงกลยุทธ์ร่วมด้วย ซึ่งมันทำให้เราดู The Circle ในซีซั่นนี้ด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป แล้วมันก็ยากเหลือเกินที่จะเชียร์ใคร โอเคแหละ เรามองเห็นคนที่เล่นเกมด้วยความจริงใจ ผสมด้วยกลยุทธ์ แต่มันก็มีอะไรบางอย่างที่ทำให้เราไม่เทใจให้พวกเค้า ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่ความผิดของผู้เล่นหรอกนะ เพราะมันคือ “เกม” ที่วัดกันว่า ใครจะหาพวกพ้อง เป็นผู้นำที่มีอิทธิพล หรือทำให้คนเชื่อใจได้มากที่สุด ไม่ใช่เกมที่วัดว่าใครเล่นเกมอย่างซื่อตรงที่สุด!

แล้วมันก็น่าสนใจมากที่เราได้เห็นผู้เข้าร่วมการแข่งขันที่เป็นเกย์ถึง 2 คน แต่เป็น 2 คนที่แตกต่างกันอย่างเหลือเชื่อ โดยเฉพาะวิธีคิด ทัศนคติ และมาตรวัดทางศีลธรรม แล้วมันก็สะท้อนได้ดีเหลือเกินว่า มนุษย์เราจะเป็นคนเช่นไร ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ ผู้ชาย-ผู้หญิงมีทั้งคนดีและคนไม่ดีฉันใด LGBTQ+ ก็มีทั้งคนที่ดีและคนที่ไม่ดีฉันนั้น รวมถึงความแตกต่างหลากหลายของชาว LGBTQ+ ด้วย บางคนอาจจะเป็นคนเฮฮา ตลกสนุกสนาน เสียงดัง โวยวาย แต่ก็มีชาว LGBTQ+ อีกหลายคนที่สุภาพเรียบร้อย เก็บตัว และไม่ชอบเข้าสังคมเช่นกัน ดังนั้น อย่าเหมารวม LGBTQ+ ว่าจะต้องเป็นคนแบบนั้นแบบนี้เลย

รับชม The Circle ได้ทุกซีซั่นทาง Netflix