Photos : สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย
By : Ruta
​​นับว่าเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจจริงๆ สำหรับรางวัล “อรรธนารีศวร” ซึ่งสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย ร่วมกับ Armed Forces Research Institute of Medical Science (AFRIMS), คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ, กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม จัดงานมอบรางวัลเพื่อประกาศเกียรติคุณต่อบุคคลและหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนการทำงานของบุคคลหลากหลายทางเพศ โดยปราศจากอคติและการเลือกปฏิบัติ

โดย @tom actz ก็ขอรวบรวมคำกล่าวบนเวทีของผู้ได้รับรางวัลต่างๆ มาให้ได้อ่านกันอย่างเต็มอิ่มจุใจ เพราะเชื่อว่า นี่คือการส่งต่อแรงบันดาลใจและพลังแห่งความภาคภูมิใจของพวกเราชาว LGBT จริงๆ ... ทั้งนี้ขอขอบคุณอาสาสมัครผู้ถอดคำปราศัยต่างๆ เหล่านี้ มา ณ ที่นี้



รางวัล Pride Award ประเภทบุคคล : ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ผู้กำกับภาพยนตร์เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของคนที่มีความหลากหลายทางเพศ

"ขอบคุณมากครับ คณะกรรมการและสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย รางวัลนี้เป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม เพราะมันคือรางวัลของชีวิตของผม รางวัลอื่นๆ ที่เคยได้มา มันคือผลงาน แต่รางวัลนี้มันคือตัวตนของเรา ผมดีใจที่มีคนเห็นคุณค่าในตัวผม ขอบคุณฟ้าสีรุ้งมากๆ และคณะกรรมการมากๆ และอีกบุคคลนึงที่ต้องขอบคุณก็คือ ครอบครัว ขอเสียงปรบมือให้คุณแม่และน้องสาวของผมด้วยครับ งานนี้เป็นงานที่ผมอยากให้คุณแม่มาด้วยมากๆ เพราะผมอยากให้คุณแม่ได้มาเห็น ได้ภาคภูมิใจ เพราะตั้งแต่ผมเกิดมา แม่มีแต่ให้ความรัก แม่ไม่เคยมีคำถามหรือสงสัยในการเป็นตัวตนของผมเลย ผมรักแม่มากๆ ขอบคุณคุณแม่มากๆ ผมอยากจะบอกทุกคนว่า ผมต้องต่อสู้มากขนาดไหนกับหนังที่ผมสร้าง ผมก็ไม่รู้ว่าผมเอาความกล้าของผมมาจากไหน กล้าเอาเงินลงทุนเพื่อมาสร้างหนัง Insects in the backyards แมลงรักในสวนหลังบ้าน เพื่อที่จะเล่าเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศในสังคม และพอทำเสร็จก็ถูกแบนเมื่อ7ปีที่แล้ว ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลใด ทั้งที่ผมตั้งใจทำเพื่อสังคมให้ได้เห็นว่า มนุษย์ไม่ได้มีแค่สองเพศในโลกใบนี้ แต่ความตั้งใจดีนั้นมันกลับโดนแบน และผมก็ต่อสู้จนวันนี้หนังเรื่องนี้ได้ถูกฉายแล้วที่โรงหนัง House RCA ผมไม่สามารถเดินทางมาด้วยตัวคนเดียว ผมขอขอบคุณทุกๆ คนที่เป็นกำลังใจให้ ให้ผมรู้สึกว่าตัวผมมีคุณค่า ขอบคุณมากๆ ครับ"
 
รางวัล Pride Award ประเภทหน่วยงาน : มูลนิธิซิสเตอร์ องค์กรผู้นำในการทำงานกับสาวประเภทสองในประเทศไทย

"ดิฉันตื่นเต้นมาก ดิฉันเคยทำงานหน้าเวที เป็นพิธีกรมามากมาย แต่ไม่มีครั้งไหนตื่นเต้นเท่าครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณผู้ที่คิดค้นรางวัลนี้ขึ้นมา คณะกรรมการทุกท่าน และสมาคมฟ้าสีรุ้ง ที่มองเห็นคุณค่าการทำงานของคนที่ทำงานเพื่อชุมชนอย่างพวกเราหลายๆ คน จริงๆ แล้ว รางวัลนี้ไม่ได้แข่งกันเลยนะคะว่าใครเก่งกว่าใคร ทุกองค์กรทุกๆ คนในที่นี่เป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องที่สนับสนุนกันมาตลอด ซิสเตอร์อายุครบ12 ปี แล้วนะคะ ดิฉันไม่เคยลืมบุคคลคนนี้ผู้จุดประกายสาวประเภทสองให้ลงมือทำอะไรบางอย่าง ขอบคุณคุณบุญญา พิโสพันธ์ หรือพี่ฮั๊ว ยังอยู่ที่อเมริกา เป็นคนคิดและเริ่มสร้างซิสเตอร์มาเป็นคนแรกๆ ดิฉันเป็นรุ่นที่สาม และพัฒนาองค์กรมาเรื่อยๆ เราได้ทำประเด็นคนข้ามเพศเป็นหลัก ไม่ได้บอกว่าใครมีผลกระทบมากน้อยไปกว่าใคร แต่อยากเล่าให้ฟังว่า เมื่อเราเป็นแบบนี้ เราไม่มีตัวตนในสังคมนี้ เพื่อนหลายๆ คน จะบอกว่า เมืองไทยคือสวรรค์ของกะเทย กะเทยใช้ชีวิตเยี่ยมมาก ดีมาก นั่นคือทางสังคม แต่ในทางกฎหมาย คือไม่มีตัวตนทางกฎหมาย คือไม่มีสี เป็นผีเหมือนไร้วิญญาน เราต้องอยู่ภายใต้ Mr. ทั้งที่พวกเราไม่ใช่ แต่เราจำเป็นต้องอยู่ และเราหลบไม่ได้ กะเทยยืนอยู่ตรงนี้ 100 เมตรก็มองเห็น แต่เพื่อนเราที่เป็นเกย์ เป็นหญิงรักหญิงก็สามารถไปไหนมาไหนโดยที่ไม่ต้องบอกตัวตนของตัวเองก็ได้ หลบหลีกได้เพื่อความปลอดภัย แต่การที่เป็นกะเทยเราหลบหลีกไม่ได้ ทุกคนมองเห็น และเป็นประเด็นทางสังคม รู้ไหมคะ มันเหนื่อยมากกับการที่ต้องหางาน ไม่มีงานก็ไม่มีเงินนะคะ ไม่มีชีวิต ไม่มีคุณภาพชีวิตที่ดี เรายังคงต้องทำงานต่อสู้กันต่อไป เพิ่งจะมีโอกาสได้ไปดูงานที่อเมริกา ดิฉันเพิ่งกลับมาเมืองไทยเมื่อวาน ได้ยินประโยคนึงในงานจาก ดร. มาร์ติน ลูเทอคิง ท่านเป็นคนผิวสี ท่านพูด ว่า I have a dream ฉันมีความฝัน อเมริกาไปไกลมากเรื่อง Civil Rights เราจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ เราจะทำให้กะเทยเรามีตัวตนทางกฎหมายและมีความสุขได้ เราจะทำทั้งสองอย่างไปพร้อมๆ กัน เราไม่ถูกก้อนหินปา เราไม่ถูกฆ่าแขวนคอ แต่ทางกฎหมายเราไม่มีตัวตนอะไรเลย ดังนั้น ต้องทำทั้งสองอย่าง ให้กฎหมายรับรองเพศสภาพให้เกิดขึ้นให้ได้ ที่เราจะทำร่วมกับกับเพื่อนๆ ภาคีเครือข่าย ถ้าแค่เสียงของกะเทยมันไม่ดัง มันต้องร่วมกันทำทั้ง LGBT และชายหญิงทั่วไปรวมกันมันถึงจะดังพอ ขอให้บุญบารมีของพระแม่อุมาและสิ่งศักสิทธิของรางวัลนี้ให้พวกเรามีพลังร่วมกันต่อสู้ ขอบคุณมากค่ะ"