• @TOM NEWS
  • Jan 2025

5 อันดับรายการเรียลิตี้ถูกจริต LGBTQ ประจำปี 2024

By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
เป็นอีกปีที่เราได้ชวนเพจ "ชีวิตผมก็เหมือนหนัง" มาจัดอันดับรายการเรียลิตี้ดีที่น่าจะถูกจริตชาว LGBTQ+ ประจำปี และนี่คือ 5 อันดับรายการเรียลิตี้ที่เราไม่อยากให้ทุกคนพลาด


The Boyfriend (2024)

นี่คือรายการที่จับเอาเกย์หนุ่มต่างที่มา จำนวนเกือบสิบชีวิตมาอยู่ในบ้านพักตากอากาศในเมืองริมทะเล แล้วในการค่อยๆ เรียนรู้เพื่อค้นหาคนที่ใช่ที่ตรงใจ พวกเค้าก็ต้องทำภารกิจสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปรับผิดชอบขับ Food Truck ออกไปขายกาแฟและขนมริมทะเล พร้อมกับบริหารจัดการค่ากินอยู่ในบ้านไปด้วย ดังนั้น กิจกรรมของพวกเค้าในรายการจึงไม่ใช่การตั้งหน้าตั้งตาหาคู่ แต่ดูเหมือนพวกเค้าได้ใช้ชีวิตด้วยกัน ผ่านกิจกรรมประจำวันต่างหาก (ซึ่งที่จริง มันก็มีโบนัสคือการได้ไปออกเดตกันตามลำพัง หรือได้ไปนอนค้างคืนด้วยกัน ที่คล้ายๆ กับรายการเรียลิตี้หาคู่อื่นๆ ด้วย)

เสน่ห์ประการสำคัญของ The Boyfriend ก็คือ ผู้เข้าร่วมรายการทั้ง 9 คนนี่แหละ พวกเค้าต่างก็มีเสน่ห์เป็นของตัวเอง และในความแตกต่างหลากหลาย ทั้งรูปลักษณ์ การแสดงออก วิธีคิด ทัศนคติ มุมมองชีวิต ไปจนถึงการที่หลายๆ คนไม่ได้อาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่นมาตลอด มันก็ทำให้พวกเค้าต้องปรับตัวกันหลายต่อหลายครั้ง สำหรับเราแล้ว ความน่าสนใจที่สุดของรายการก็คือ การเป็นรายการที่นำเสนอเกย์ญี่ปุ่นตัวจริงเสียงจริง ไม่ใช่หนังหรือซีรีส์ เราอยากรู้เหลือเกินว่า ในวันที่สังคมญี่ปุ่นดูเปิดกว้างมากขึ้นแล้ว มันเปิดกว้างแค่ไหนกัน ซึ่งสุดท้าย การได้เห็นเพื่อนเกย์โอบกอดให้กำลังใจกันและกัน ผ่านช่วงเวลายากๆ ของการเปิดตัวกับครอบครัว มันก็ทำให้เราน้ำตาซึมจริงๆ


Single's Inferno Season 3 (2023)

จากที่คิดว่า คงไม่มีอะไรแปลกใหม่แล้ว แต่มันกลับทำเซอร์ไพรส์จนเราร้องลั่นบ้าน และนี่คือ Single's Inferno รายการเรียลิตี้จาก Netflix ที่จับเอาหนุ่มสาวคนโสดชาวเกาหลี โดยเน้นไปที่คนที่มีหน้าตาดี+หุ่นแซ่บมาอยู่รวมกันในเกาะร้างห่างไกลผู้คน แล้วตั้งกติกาเอาไว้ว่า ผู้เข้าแข่งขันจะต้องพยายามจับคู่กับใครสักคนให้ได้ เพื่อที่จะได้รับโอกาสเดินทางออกจากเกาะนรกแห่งนี้ ไปยังเกาะสวรรค์แล้วได้ใช้เวลาร่วมกับคนที่เลือกในโรงแรมสุดหรูหนึ่งคืน ก่อนจะต้องเดินทางกลับมายังเกาะนรกอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น แล้วพยายามตามหาคนที่ใช่ เพื่อจะได้ไปเกาะสวรรค์อีกครั้ง


Queer Eye: Season 8 (2024)

เป็นความสุขปนเศร้าที่ได้ดู Queer Eye ซีซั่น 8 จบลง เพราะแม้จะดีใจแค่ไหนที่พลังงาน (ที่ได้เห็นและได้รับ) ของ Queer Eye ยังคงเหมือนเดิม แต่พอเรารู้ว่ามันจะเป็นซีซั่นสุดท้ายของ Bobby แล้ว มันก็โหวงๆ ยังไงชอบกล และมันก็ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่เราจะคอยจับตามองดูในทุกการปรากฏตัวของ Bobby ว่าเค้าจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายนี้ไหม ... เศร้ายิ่งกว่าที่จนจบรายการ 6 EP (ถือเป็นซีซั่นที่มีจำนวนตอนน้อยที่สุด) ก็ไม่ได้มีการกล่าวคำอำลาของ Bobby อย่างเป็นทางการใดๆ เลย ก็คงต้องรอดูต่อในซีซั่นหน้าแหละว่า จะมีการพูดถึง Bobby อย่างไรบ้าง


Next in Fashion Season 2 (2023)

เพราะชอบซีซั่นแรกมากๆ พอมาถึงซีซั่น 2 เราก็เลยมีความคาดหวัง แล้วมันก็น่าดีใจที่ Next in Fashion Season 2 ไม่ทำให้ผิดหวังเลย แม้จะมีการเปลี่ยนตัวพิธีกรประจำรายการ จาก Alexa Chung มาเป็น Gigi Hadid ก็ตาม แต่บรรยากาศ ความสนุกสนานพลังบวก และเรื่องราวบันดาลใจจากซีซั่นที่แล้วยังอยู่ครบ แถมเรายังชอบเคมีระหว่าง Gigi Hadid กับ Tan France อีกหนึ่งพิธีกรมากๆ ด้วย ที่สำคัญ ผู้ชนะของซีซั่นนี้ก็เป็นคนที่เราเชียร์มาตลอด เช่นเดียวกับซีซั่นที่แล้วเลย!


Is It Cake? Season 2 (2023)

อธิบายกันก่อนว่า นี่คือรายการที่ชวนนักทำเค้กจากทางบ้านมาร่วมกันแข่งขันทำเค้กที่รูปลักษณ์ภายนอกดูไม่เหมือนเค้กเลยสักนิด โดยจะมีโจทย์ในแต่ละรอบไม่เหมือนกัน แล้วเชิญคณะกรรมการจากหลากหลายวงการมาร่วมกันจับผิดกวาดตาหาดูว่า ในบรรดาสิ่งของที่วางเรียงรายอยู่นี้ ชิ้นไหนกันแน่ที่เป็นเค้ก! ซึ่งหากทายผิด เงินรางวัลก็จะตกเป็นของนักทำเค้กคนนั้นไป ก่อนจะเข้าสู่การชิงแชมป์หาสุดยอดนักทำเค้กของรายการ Is It Cake? ที่จะได้เงินรางวัลกลับไปสานฝันทำโน่นทำนี่กันต่อ