• @TOM NEWS
  • Apr-May 2022

Fantastic Beasts The Secrets of Dumbledore เมื่อความลับของพ่อมดเกย์ถูกเปิดเผย

By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
น่าเสียดายอยู่เหมือนกันนะ ถ้า Fantastic Beasts จะจบลงแค่ไตรภาคนี้ เพราะเราชอบภาคล่าสุดนี้มาก ถึงจะไม่ได้ประหลาดใจกับ “ความลับของ Dumbledore” สักเท่าไหร่ แต่ก็เพลิดเพลินกับการรวมทีมตัวละครที่ไม่น่าจะมาทำงานด้วยกันได้ เพื่อทำภารกิจตะลุยด่านตามประเทศต่างๆ อย่างกับหนังตระกูลสายลับแบบนี้ แล้วก็ถึงกับยิ้มออกมา เมื่อถึงฉากกำหนดเงื่อนไขของภารกิจนี้ขึ้นมาว่า มันคือแผนที่ไม่มีแผน มันไม่ถึงกับตบเข่าฉาดร้องว่า “คิดได้ไงเนี่ย” แต่เงื่อนไขนี้มันทำให้หนังสนุกมากจริงๆ แล้วมันก็ตอบโจทย์การรวมตัวของทีมที่มีผู้คนแตกต่างหลากหลายแบบนี้ได้ดีเลย

หนังเล่าถึงจุดพลิกผันครั้งสำคัญ เมื่อพ่อมดวายร้าย Grindelwald เถลิงอำนาจขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับล้างมลทินให้ตัวเองได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้นำของโลกเวทมนตร์ในระดับนานาชาติ ร้อนถึง Dumbledore ที่ต้องตั้งคณะทำงานเพื่อหยุดยั้งความชั่วร้ายของ Grindelwald โดยมีนักสัตว์วิเศษวิทยาอย่าง Newt Scamander ร่วมทำภารกิจนี้ เพราะมันเกี่ยวพันกับ “กิเลน” สัตว์วิเศษที่จะชี้เป็นชี้ตายอนาคตของโลกเวทมนตร์ แน่นอน ชื่อหนังบอกไว้แล้วว่า The Secrets of Dumbledore ดังนั้น มันจึงโฟกัสไปที่ตัว Dumbledore ในสมัยยังหนุ่มกว่าที่เราคุ้นเคย โดยประกาศกันตั้งแต่แรกไปเลยว่า เค้ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพ่อมดด้านมืดอย่าง Grindelwald แต่นั่นไม่ใช่ความลับเดียว ยังมีปูมหลังของครอบครัวตระกูล Dumbledore ให้เราค้นหาอีกด้วย

เห็นหลายคนบอกว่า หนังมีฉากแอ็คชั่นน้อยและไม่สนุก แต่เรากลับชอบมาก ฉากแอ็คชั่นต่างๆ ก็มีครบทั้งฉากบังคับกับพวกสัตว์วิเศษอันเป็นเสน่ห์ของหนังตระกูล Fantastic Beasts หรือฉากสู้รบปรบมือกันของพวกพ่อมดแม่มด แต่ที่ชอบยิ่งกว่าคือการปฏิบัติภารกิจแบบที่คาดเดาอะไรไม่ได้นี่แหละ (เพราะ Grindelwald มองเห็นอนาคตบางส่วนไปแล้ว Dumbledore จึงต้องวางกลยุทธ์ใหม่ ปล่อยให้ทุกอย่างไหลไปแบบเหมือนไม่มีแผน แต่จริงๆ แล้วมันมีแผนที่ซับซ้อนกว่านั้น แล้วสมาชิกในทีมทุกคนต่างก็ไม่มีใครรู้เลยว่า อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง) ซึ่งมันทำให้เราต้องคอยจับตาดูว่า J.K. Rowling จะบิดเรื่องไปทางไหน แล้วนี่แหละคือความสนุกสำหรับเรา

หากจะมีอะไรน่าหงุดหงิดอยู่บ้างก็คือการหาทางลงให้กับตัวละคร Credence Barebone ของ Ezra Miller ที่ภาคก่อนๆ หลอกล่อให้เราคิดอะไรไปไกลกับปูมหลังของตัวละคร แต่พอมาภาคนี้กลับเฉลยอย่างง่ายดาย ถึงพอมองย้อนกลับไปจะเห็นความสมเหตุสมผลอยู่บ้าง แต่มันก็เหมือนเพิ่งคิดออกตอนเขียนบทภาคนี้ มากกว่าจะวางปูมหลังตัวละครไว้ตั้งแต่ต้น ถึงอย่างนั้นก็ยังชอบ Ezra Miller มากนะ ตัดกลับมาที่ชีวิตจริงนอกหนัง อยากให้น้องไปพบจิตแพทย์อย่างจริงจังเพื่อกลับมาทำงานดีๆ ได้อีก

อีกคนที่ชอบมากๆ ก็คือ Jude Law ในบท Dumbledore อยากให้หนังขยี้ซ้ำอีกนิดถึงความยากของการเป็นพ่อมดเกย์ในอังกฤษยุคก่อน (จริงๆ มันมีการพูดไว้อยู่บางๆ เบาๆ ในหนังแล้ว) ไหนๆ เราก็เปรียบเทียบได้อยู่แล้วว่า การเป็นพ่อมดแม่มดก็เหมือนกับ LGBTQ+ ที่ต้องหลบซ่อนตัวเองหรือถูกกีดกันจากโลกมนุษย์หรือพวกมักเกิ้ลนี่นา ประหลาดใจตัวเองอยู่เหมือนกัน เมื่อฉากสุดท้ายของเรื่องมาถึง ในขณะ Dumbledore ทำได้แค่ยืนมองงานฉลองการแต่งงานจากด้านนอก แล้วเลือกเดินจากไปอย่างโดดเดี่ยว มันทำให้เราน้ำตาไหลได้เฉยเลย

ดู-หนัง Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore สัตว์มหัศจรรย์:  ความลับของดัมเบิลดอร์ (2022) เต็มเรื่อง HD – พากย์ไทย THAI - Visual Studio  Marketplace