By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
พอดูงาน “ออม - ปัถวี เทพไกรวัล” มาหลายชิ้น ก็มีความคาดหวังหรือคิดล่วงหน้าไปก่อนว่า น่าจะต้องเจออะไรบ้าง แต่ปรากฏว่า ผิดคาดไปเยอะเลยทีเดียว แล้วก็พูดแบบไม่ลำเอียงเลยว่า เป็นความผิดคาดที่น่าประทับใจดีทีเดียว ดีใจที่ได้เห็นตัวตนของออมเติบโตขึ้น ไปพร้อมๆ กับงานที่เติบโตขึ้นแบบนี้

I’m a Diva : คืนนั้น.ฉัน.ดิว่า เป็นการแสดงเดี่ยวที่พาเราเข้าไปนั่งอยู่ในร้านเหล้า จิบเครื่องดื่ม (ที่เป็นเวลคัมดริงก์สำหรับผู้เข้าชมละคร) ฟังดิว่าสาวพราวเสน่ห์นาม Amadiva พล่ามเล่าถึงเส้นทางชีวิตการทำงานของตัวเอง สลับกับฟังเธอครวญเพลงที่สะท้อนถึงเรื่องราวในชีวิต

ความผิดคาดประการแรกก็คือ ไม่คิดว่าโชว์จะอัดแน่นด้วยเพลงมากมายราวกับมินิคอนเสิร์ตเช่นนี้ จริงๆ คือชอบเพลย์ลิสต์เพลงเหล่านี้มาก ถึงมันจะไม่ได้เป็นเพลงอยู่ในกระแสให้ร้องตามได้ทั้งหมด แต่มันก็สะท้อนรสนิยมฟังเพลงของเจ้าตัวที่เก๋ไม่หยอก แล้วก็ต้องชื่นชมการเรียบเรียงหลายๆ เพลงในเวอร์ชั่นใหม่ด้วย ลามไปถึงวงเล่นสดที่สอดรับกับอิมโพรไวส์ต่างๆ ของ Amadiva ได้ดี ผิดคาดซ้ำไปอีกก็คือ การร้องสดของ Amadiva ในทุกเพลงที่ทำให้เราทึ่ง เฮ้ย ออมร้องเพลงดีขึ้นมาก อันนี้เปรียบเทียบจากเพลงต่างๆ ที่เราเคยได้ดูได้ฟังในการแสดงเรื่องก่อนๆ ของออมนะ ดังนั้น สำหรับเราแล้ว แค่ได้มานั่งฟังเพลงเฉยๆ ก็คุ้มค่าแล้ว แต่... I’m a Diva : คืนนั้น.ฉัน.ดิว่า มีอะไรมากกว่านั้น

ไม่ใช่เรื่องเกินคาดที่จะได้ฟัง Amadiva บอกเล่าเรื่องราวชีวิตส่วนตัว แต่พอเธอโฟกัสไปที่พาร์ตการทำงาน ทั้งในฐานะคนทำละคร และการเป็นแดรกควีนที่ผ่านรายการเรียลิตี้ชื่อดังมา แล้วประสบพบเจออะไรหลายอย่าง จนเหมือนๆ จะอยู่ในช่วงวิกฤติวัยกลางคน/คนทำงาน มันก็สัมผัสแตะต้องตัวเราทันที มันเป็นสิ่งที่เราก็เคยตั้งคำถามกับตัวเอง เราทำอะไรอยู่ เราอยู่ตรงไหน เรามีความสุขดีกับสิ่งที่ทำอยู่ใช่ไหม ความสำเร็จที่เราเคยแสวงหามันยังเติมเต็มตัวเราอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า ฯลฯ นั่นแหละ พอจบละคร เราก็ต้องเดินไปกอดออม แล้วอยากบอกกับออมตรงนี้อีกครั้งว่า “ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้แหละ” (ก่อนหน้านี้ ออมเคยบอกกับเราว่า หนูจะคอยดูว่า ดูเรื่องนี้จบแล้วพี่จะมาขอกอดหนูอีกไหม ... และการโอบกอดเมื่อคืนนั้นก็คือคำตอบ แต่มันเป็นกอดที่ต่างไปจากเดิมแล้วล่ะ เราไม่ได้อยากโอบกอดเพื่อถ่ายเทความทุกข์ความโกรธเกรี้ยวจากออมเหมือนเมื่อก่อน แต่มันเป็นการกอดเพื่อบอกว่า เราเข้าใจออมต่างหาก) อีกหนึ่งความผิดคาดก็คือ ออมในมาด Amadiva ในตอนนี้ช่วงวัยนี้ไม่ได้เกรี้ยวกราดหรือผลักไสคนออกจากโชว์เหมือนเดิมแล้ว ถึงจะยังปากหมาปาก He เหมือนเดิม แต่ Amadiva ใน I’m a Diva : คืนนั้น.ฉัน.ดิว่า ก็ดูเป็นมิตรและเชื้อเชิญให้ทุกคนเข้าไปโอบกอดเธอ เผลอๆ จะเป็นมิตรมากกว่า Amadiva ในงานปาร์ตี้ต่างๆ ที่เธอขึ้นโชว์ในฐานะแดรกควีนด้วยซ้ำ

ความเจ๋งของ I’m a Diva : คืนนั้น.ฉัน.ดิว่า ก็คือการทำทีเหมือนว่า มันเป็นโชว์แบบด้นสด แต่จริงๆ แล้วมันมีบท และบทคราวนี้ก็รับผิดชอบโดย “มิสโอ๊ต” ปฏิพล อัศวมหาพงษ์ ซึ่งความเจ๋งก็คือ เราสามารถนั่งดูมันโดยอินกับประเด็นเส้นทางแดรกควีน/คนทำงานศิลปะ/คนทำละครก็ได้ หรือจะดูมันในเลเยอร์ของการเป็นคนตัวเล็กๆ ในสังคมไทยที่ถูกกดทับด้วยอำนาจก็ได้เช่นกัน (ร่วมสมัยสุด!) แล้วถึงแม้ Amadiva จะไม่ได้เปิดเปลือยตัวตนเรื่องความรักความสัมพันธ์ของเธอในโชว์นี้เลย แต่ชั่วขณะหนึ่งขณะเธอขับขานเพลงต่างๆ เราก็อดคิดไม่ได้ว่า เพลงเหล่านี้มันแอบบอกเล่าเรื่องในพาร์ตนี้ด้วยหรือเปล่านะ? หรือถ้าไม่ เราก็ขอแนะนำให้ออมเอาประเด็นนี้ไปใส่ในงานชิ้นใหม่นะ แล้วเราจะรอดู!

I’m a Diva : คืนนั้น.ฉัน.ดิว่า ยังทำการแสดงอีกหลายรอบ (24-25 , 29 ตุลาคม 1 , 5-8 พฤศจิกายน เวลา 2 ทุ่มตรง) รายละเอียดเพิ่มเติม www.facebook.com/nakornrath/